Wave Riders Technical Course Online

Wave Riders Technical Course Online
เรียน Technical Course online สามาร click ที่ ภาพเลย

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แนวทางในการลงทุน ที่คุณเลือกเอง


การลงทุน ในหุ้น มีหลากหลายแนวทาง หากจะแบ่งตามความคิดของผม ในแง่ของ Income คงจะมีเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ

Active Income กับ Passive Income
.

Active Income เป็นการซื้อขายหุ้น แนวเก็งกำไร ราคาหุ้น ซึ่งก็มีหลากหลายสไตล์

- แบบแรก จะเรียกว่า Buy&Hold หรือ Trend Follower หรือ เล่นตามแนวโน้ม

คือจะเรียกอะไร ก็ได้ แต่มันคือการซื้อหุ้นแล้วถือไประยะค่อนข้างยาว จะใช้ ปัจจัยพื้นฐาน หรือ กราฟเทคนิค มาวิเคราะห์ ประเมินราคาในอนาคต ก็สุดแต่ความถนัดของแต่ละคน แต่ก็คือ ซื้อเพื่อไปขายทำกำไรในราคาที่แพงกว่า นั่นเอง

- แบบสอง Swing Trade เป็นการเก็งกำไร ตามรอบราคาหลักๆ ของหุ้น ที่ต้องมีวิ่งขึ้นและพักตัว อยู่ปกติธรรมชาติของราคาหุ้น ก็จะใช้เทคนิคอล ในการจับจังหวะ ราคาหุ้นก่อนจะวิ่ง หรือเริ่มวิ่ง เข้าซื้อ เพื่อถือไปขาย ช่วงที่ ราคาเริ่มจะหมดแรง หรือเริ่มการพักตัว วิธีนี้ก็ต้องเข้าใจพฤติกรรมราคา เทคนิคอล และมีการวัดเป้าราคาได้ดี จึงจะทำกำไรได้ แต่ละรอบจะถือหุ้นเกิน 1 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 3 เดือน

- แบบสาม เป็นแนว เก็งกำไรระยะสั้น หรือที่ชอบใช้คำว่า Day Trade กัน
จนกลายเป็นเข้าใจผิดกันว่า ซื้อขายจบในวัน ที่จริงแล้ว Day trade หรือ เก็งกำไรระยะสั้นจริงๆ นั้น จับจังหวะการระเบิดของราคา ในช่วงสั้นๆ เน้นหุ้นมี่ราคาวิ่งเร็วรุนแรง จากการเข้ามารุมซื้อของมวลชนในตลาด
     ก็ยังแยกย่อยได้หลายแนวทางเช่นกัน เช่น เล่นทำกำไรในช่วงเวลาพีคของวัน เทรดไม่กี่ช่องไม่กี่ชั่วโมง แล้วก็ขายทำกำไร เน้นอัดเงินเข้าไปมากหน่อย หรือเทรดสินค้าที่มี leverage สูง ราคาขยับไม่กี่ช่องก็ได้กำไรในอัตราสูง
     หรือ เทรดในหุ้นที่มีกระแสข่าว มีโมเมนตัมเข้า ซื้อถือ 2-3 วัน ก็ขายทำกำไร ออกไป แล้วก็รอจังหวะใหม่ ซึ่งเทรดเดอร์เหล่านี้ ก็ต้องมีทักษะ และประสบการณ์ในการดูพฤติกรรมราคา สังเกตุปริมาณการซื้อขายระหว่างวันได้ดี ซึ่งก็ต้องใช้การฝึกฝนจนชำนาญ ... ระหว่างทาง ก็จะมีโอกาสผิดพลาด ขาดทุนได้บ่อยๆ จากการที่ยังอ่านราคาไม่ขาด และความโลภจากการที่ราคาเหวี่ยงขยับรุนแรง
.
ที่กล่าวมาก็นักลงทุน หรือเทรดเดอร์ก็ยังคงต้องดูแลการซื้อขายหุ้นตลอดเวลา ไม่เทรด ไม่ดู ก็ไม่มีกำไร
.



ส่วน อีกด้านของการลงทุน เน้นไปที่สร้าง Passive Income คือ เอาเงินลงทุนไปในหุ้น เพื่อคาดหวังผลตอบแทนอื่นมาก่อน ที่ไม่ใช่ กำไรจากราคา ก็มีให้เห็นกันหลักๆ 3 ลักษณะ คือ

- ลงทุนคาดหวังปันผล แนวทางนี้ เทียบผลตอบแทนเงินปันผลกับเงินฝาก สนใจกิจการที่มั่งคง ให้ปันผลสูงได้สม่ำเสมอ ซื้อหุ้นไปแล้ว แทบไม่ขาย ถ้าไม่มีปัจจัยพื้นฐานกิจการที่เปลี่ยนไป ทำให้ปันผลถดถอยลง ก็ถือยาวๆ ไป ก็มีให้เลือกทั้งหุ้น และกองทรัสต์อสังหาฯ

- ลงทุนหวังมูลค่ากิจการ ก็จะลงทุนใน Growth Stock ที่กิจการเติบโตสม่ำเสมอ บางคนอาจจะงง แล้วราคาโตไปเรื่อยกำไร แล้วไม่ขายเหรอ ... จะเทียบให้เห็นภาพ ก็เหมือนกับ คนที่สะสมนาฬิกา ของโบราณ พระเครื่อง หรือของที่มูลค่าสูง limited edition ... มูลค่าเพิ่มขึ้นไปทุกปี แต่ก็สะสมไว้ไม่ได้ขาย ทำกำไร เพราะเขารู้ว่า กิจการที่เติบโตดี มีมูลค่า ราคามันยากที่จะถอยกลับมาให้ซื้อในราคาถูกอีก ..ซึ่งก็มีปันผลระหว่างปี ตอบแทนพอสมควร

- ลงทุนในกองทุนรวม แนวนี้ ไม่ต้องเลือกหุ้นเอง มีกองทุนดูแลการลงทุนให้ หวังผลตอบแทนจากกองทุน ก็ต้องมีความเข้าใจ วิธีการจัดการเงินของกองทุน นโยบายการลงทุน แต่ละกองทุนด้วย เช่น มีปันผลคืนให้แต่ละปีไหม หรือไม่มีแต่มีการันตีอะไรพิเศษ ... รายละเอียดก็อาจจะต่างจาก เลือกซื้อหุ้นอยู่บ้าง ที่ดูผลประกอบการแต่ละ กิจการ
..
     อาจมีคำถามว่า แล้วต้องมีมันทุกแบบทุกอย่างเลยหรือไม่ หรือเน้นๆ ไปแบบนึงเลยดีกว่า คงตอบแทนไม่ได้ มันอยู่ ที่ต้นทุนของแต่ละคน ต้นทุนที่เป็นเงินลงทุน , ต้นทุนความรู้ที่เกี่ยวข้องในการลงทุน, ต้นทุนเวลาที่จะสละให้การทุน และติดตามการลงทุน และสุดท้ายต้นทุนจิตใจในการแบกรับความเสี่ยงจากการลงทุน เหล่านี้ แต่ละคนมีแตกต่างกันไป

     เช่น เงินทุนน้อย อายุยังน้อย อาจจะเสี่ยงได้มาก มีเวลาติดตามราคาได้ทั้งวัน ก็อาจะชอบเทรดเก็งกำไร หรือ อายุมากแล้ว เงินลงทุนก้อนสุดท้ายในชีวิต ก็คงรับความเสี่ยงไม่ได้มาก จะให้เทรดระยะสั้นก็คงไม่เหมาะสม แต่สุดท้ายเมื่อลงทุนไปได้กำไร ทุนใหญ่มากขึ้นก็ต้องกระจายความเสี่ยง ไปหลากหลายประเภทการลงทุน

..

Investment in your ways

..

อ้างอิง จากเนื้อหา คอร์ส แกะงบลงทุน เลือกหุ้นแบบ WaveRiders
https://www.skilllane.com/courses/wave-riders-fundamental

http://www.stock2morrow.com/course/seminar_courses_list.php?id=348

#ลงทุนในแบบของคุณ

#ทางของกู

#WaveRiders