Wave Riders Technical Course Online

Wave Riders Technical Course Online
เรียน Technical Course online สามาร click ที่ ภาพเลย

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

8 เหตุผลที่ คนควรขายหุ้น



          เคยเป็นอย่างนี้กันบ้างไหม?? จะลงทุนในหุ้น ศึกษาหาหุ้นกิจการดี วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน หรือดูกราฟมองหาสัญญาณเทคนิคกันแทบหลังหัก กำเงินเข้าซื้อหุ้นด้วยความมั่นใจเปี่ยมล้น แต่สุดท้ายตกม้าตายตอนจบ เพราะไม่รู้จะขายตรงไหน ราคาวิ่งขึ้นก็ลุ้นว่าจะขึ้นไปได้อีกไหม พอราคาถอยลงก็เชื่อว่าราคาหุ้นจะกลับขึ้นไปได้อีก แล้วก็ไม่ได้ขายหุ้นที่ซื้อมา แล้วก็เก็บหุ้นไว้ต่อไปไม่ได้ขาย ปัญหาแบบนี้ ถ้ายังไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไร มันก็จะเกิดแบบเดิมกลับมาอีก ลองมาดูกันว่า ถ้าจะขายหุ้น เราควรจะขายเพราะอะไร ขายเมื่อไหร่

1. Sell on Stop

จุด Stop Loss ของนักเทคนิคอล มีเครื่องมือมากมายหลายวิธี มาช่วยในการกำหนดแนวราคาที่ต้องขายหุ้นทิ้ง เช่น Safety Belt, เส้น EMA หรือแนวรับแนวต้านก็ได้ การวางแนวราคา Stop การยกขยับ Stop ตามไปเมื่อราคาวิ่งขึ้น เป็นวินัยที่จำเป็นในการเข้าซื้อหุ้น และการถือหุ้น ซึ่งช่วยป้องกันการขาดทุนจำนวนมากๆ เมื่อราคาหุ้นไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้

เมื่อจะเข้าซื้อหุ้น จึงต้องกำหนด Stop Price เพื่อนำไปประเมินความเสี่ยง (Risk) และคำนวณหาจำนวนหุ้นที่จะซื้อ (Position Sizing) จะเป็นการจำกัดความเสี่ยงในการขาดทุน (Limit Loss) ไว้ไม่ให้ขาดทุนมากเกินกว่าที่จะรับได้ และป้องกันต้นทุนเอาไว้ แผนการซื้อขายหุ้น เป็นสิ่งที่ต้องทำไว้ให้ชัดเจน ทั้งจุดเข้าซื้อ จุดยอมขายทิ้ง และเป้าหมายที่จะทำกำไร

ดังนั้นเมื่อราคาถอยมาถึง Stop Price จึงต้องรักษาวินัยของตนเอง ขายหุ้นออกไป เพื่อควบคุมความเสี่ยง และจำกัดการขาดทุนเอาไว้ ส่วนรูปแบบ และสไตล์การลงทุนของแต่ละคนจะเป็นตัวกำหนดวิธีการวาง Stop Price ที่เหมาะสม เลือกวิธีการที่เหมาะสม และรักษาวินัยตามนั้นให้ได้ 


2. Sell when Wrong

เหตุผลที่เข้าซื้อหุ้นไม่ว่าจะด้วยการวิเคราะห์ทางพื้นฐาน หรือทางเทคนิค ก็ตาม หรือแม้ว่าจะซื้อตามข่าวก็เถอะ ถ้าเหตุการณ์ทีเกิดตามมามันไม่เป็นไปตามข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อ มันก็ถือว่า “ผิด” (Wrong) การตัดสินใจขายหุ้นที่เข้าซื้อผิด เป็นสิ่งที่ต้องทำให้เร็วที่สุด

ดูพื้นฐานหุ้นดี คาดว่ากิจการจะเติบโต แต่พอประกาศผลประกอบการ หรือดำเนินธุรกิจไปแล้ว ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ก็ต้องขายทิ้ง

ดูกราฟ มีสัญญาณเทคนิคดี ราคาหุ้นวิ่ง เทรดเดอร์คาดว่าจะวิ่งไปได้ไกล เข้าซื้อไปแล้ว แต่สิ่งที่ตามมากลายเป็นว่า ราคาไม่ไปแล้ว ถอยหลังลงก็ต้องยอมรับสภาพขายทิ้งไป หรือฟังข่าวว่ามาอย่างนั้นอย่างนี้ เชื่อแล้วซื้อตามเขาไป ถ้าข่าวไม่เป็นจริง เป็นแค่ข่าวหลอกข่าวลือ ก็ต้องขายหุ้นทิ้งเหมือนกัน

เมื่อผิด ก็ต้องยอมรับว่า “ผิด” เข้าซื้อหุ้น เพราะเข้าใจผิด คิดผิด มองผิด ควรขายทิ้งอย่างไว ไม่ควรดื้อดึง ติดหุ้น ติดดอย หลายคนรู้ตัวว่าซื้อผิด แต่ไม่ยอมรับตัวเอง ดื้อดึงหาข้ออ้างต่างๆ นานา หาเหตุผลมาหลอกตัวเอง ให้ถือหุ้นต่อไป ด้วยความหวังที่ไม่มีเหตุผล ไม่มีข้อเท็จจริงมารองรับ ถ้ายังแก้นิสัยตรงนี้ไม่ได้จะมีอาการติดหุ้น ติดดอยต่อไปเพราะซื้อหุ้นผิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น เห็นหุ้น Break Out New High คิดว่าหุ้นจะวิ่งไปไกล เข้าซื้อไปแล้ว แต่กลายเป็นวิ่งวันเดียวแล้วเลิก ราคาถอยกลับลงมาใต้แนวราคาที่ Break Out ไป กลายเป็น False Break อาการพยายามมองหา Indicator มาหาข้ออ้างต่างๆ ไม่ยอมขายหุ้น แล้วถือหุ้นต่อไป จนสุดท้ายทนไม่ได้ขายหุ้นขาดทุนออกมา เสียหายยิ่งกว่าเดิม

อาการผิดพลาดอีกอย่างพวกคาดหวัง หรือ Bias ในใจ หลอกลวงตัวเอง ดูกราฟเห็น Pattern แล้ว ใจเร็วรีบเข้าซื้อก่อนที่จะเกิด Confirm Pattern เห็นหุ้นกำลังจะ Break Out กลัวตกรถ รีบเข้าซื้อก่อน Break Out และอีกเยอะแยะที่รีบเข้าซื้อก่อนที่ Confirm Buy Signal จะเกิดขึ้น แต่ราคาไม่ได้วิ่งตามที่คาดหวัง ดันผิดคาด ราคาดันทำ “เข็มขัดสั้น” (คาดไม่ถึง) ...

อาการเข็มขัดสั้น นี่มันแสบนะ มือใหม่จะเป็นกันบ่อย ใจเร็วด่วนได้ จะด้วยความงก หรือกลัวตกรถ หรืออะไรก็ไม่รู้ เข้าซื้อก่อนเกิด Confirm Signal แล้วพอไม่เป็นไปตามนั้นจะออกอาการ อึ้งๆ งงๆ ในหัวจะออกอาการขัดแย้งเหมือนมี 2 ข้างทะเลาะกัน ข้างหนึ่งจะบอกว่า “แย่แล้ว ... Stop เลย ... ขายทิ้งเถอะ”
อีกฝ่ายจะบอกว่า “ไม่หรอก ... เดี๋ยวมันก็ไป ... ดูสิ Indicator ตัวนั้น ยังบอกอยู่เลยว่า มันยังไปได้อยู่” สุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไรปล่อยให้ราคาไหลลงไปเรื่อยๆ จนเกินจุดที่จะกล้าขายขาดทุน

ดังนั้นจะเข้าซื้อด้วยเหตุผล หรือเหตุการณ์อะไรก็ตาม ถ้าราคาไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ผิดพลาด ผิดทาง ก็ต้องขายทิ้ง ซึ่งดีทีสุด คือ ซื้อเมื่อราคาเกิด Confirm Buy Signal แล้วดีที่สุด ถึงจะซื้อแพงขึ้นอีกนิด แต่ Sure กว่า มั่นใจมากกว่า เสี่ยงน้อยกว่า มันก็น่าจะดีกว่า มิใช่หรือ