Wave Riders Technical Course Online

Wave Riders Technical Course Online
เรียน Technical Course online สามาร click ที่ ภาพเลย

วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554

8 Steps : ทำไว้.. จะได้ไม่เจ็บใจทีหลัง (Step 5 - 6)

... จากบทความก่อน เกิดจากการ ที่ ถูกถาม บ่อยๆ ว่า " .. เลือกหุ้น ยังไง .. ? " 
ก็เพียงเอา วิธีการ ส่วนตัวมาเล่าให้ฟัง .. เท่านั้น ... บางคนอาจจะ มีวิธีที่ดีกว่านี้  .. บางคน อาจะใช้เครื่องมือ ที่มันสะดวกกว่านี้ .. อาจจะมี Auto Script ให้สัญญาณ ซื้อ ขาย ได้ ทันที สบายๆ ..
บางคนอาจจะคิดว่า วิธีนี้ ใช้เวลาเยอะเกินไป .. หรือ มันดูไม่เร้าใจ ...
อยากจะบอกว่า แต่ละคนก็มีวิธีการ ที่จะทำให้ ตนเอง มีความมั่นใจในการ เทรด แตกต่างกัน ใครถนัดอย่างไร ก็ใช้วิธีอย่างนั้น ... ในบทความที่ผ่านมา เพียงเสนอมุมมอง อีกด้านที่เป็นเบื้องหลังการทำงาน.. การทำการบ้าน ก่อน เทรดเท่านั้น... จะได้เป็นส่วนจุดประกายความคิด ของผู้ที่ยังไม่มีระบบการเทรด ของตนเอง จะได้ต่อยอดความคิด แล้ว พัฒนา ระบบการเทรดในแบบของตนเอง ขึ้นมา ....
.
.... จาก Step 1 - 4  นั้น เป็นเพียงการเลือกหุ้น เตรียมหุ้น และเตรียมตัวก่อนเทรด เท่านั้น ... มาเพียงครึ่งมาเท่านั้นเอง ...​ อีกครึ่งทางที่เหลือ จะเป็นขั้นตอนในการเทรด .. ซึ่งขอนำเสนอ ให้เป็นตัวอย่าง เพื่อให้ นำไปพัฒนาระบบเทรดของตนเอง.. ต่อไป
.



STEP 5 : วางแผนการเทรด , TRADING PLAN.
.
..... หลัง จาก เห็นสัญญาณในการเข้า "ซื้อ" แล้ว คงต้องมาวาง แผนการ เทรดที่ลงรายละเอียด กันบ้าง
..สิ่งที่ต้องเตรียม คือการเขียน Trading Plan ของ หุ้นที่เรา สนใจจะ เข้าซื้อ เมื่อ เปิดตลาด  ..
ยังไม่ได้ ซื้อ นะ ... แค่สนใจจะซื้อ ......
ใช้การเขียนแผน ครับ .. เขียน ใส่สมุดโน็ตเล็ก ที่พกติดตัวได้ หรือเขียนในกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่พกในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋าสตางค์ หรือ จะ key ใส่ไว้ใน มือถือ iPhone ก็ได้ ... เอาเป็นว่า ให้พกติดตัว สามารถหยิบดูได้ตลอดเวลา ..

... Trading Plan เป็นแค่ บันทึกช่วยจำ ในการเตรียมการที่จะซื้อ ในหุ้นที่น่าซื้อ แต่ยังไม่ได้ซื้อ ...

... สิ่งที่จะต้องเขียน ใน Trading Plan คือ ..
 1. ราคาที่ต้องการซื้อ  ... จะซื้อราคา เท่าไหร่.. กี่หุ้น
      ..ถ้าเปิดตลาดแล้วราคาสูงกว่าซื้อจะทำยังไง  หรือ เปิดตลาดแล้วราคาต่ำกว่าที่อยากซื้อจะทำอย่างไร
2. ราคา ที่จะ STOP LOSS เมื่อซื้อไปแล้ว .... เช่น ถ้าซื้อแล้วราคาตกมาต่ำกว่า .... แล้ว จะ CUT LOSS
3. ราคาที่จะซื้อเพิ่ม.. ถ้าขึ้นต่อ  เช่น ถ้าราคาผ่านแนวนี้ จะซื้อเพิ่ม อีก ... เท่าไหร่ หุ้น
4. เงื่อนไขการ TAKE PROFIT ....หรือ เป้าหมายที่อยากขาย... แต่ถ้าราคาไปสูงกว่าเป้าจะทำอย่างไร  ... ปกติ เป้าที่อยากขาย ควรทำไว้หลายๆ ชั้น เป็นเหมือนแนวต้าน... เมื่อทะลุแนวต้านขึ้นไป ก็ถือไปขายแนวต้านถัดไปได้

ก่อนจะไปดูตัวอย่างกัน ขอบอกไว้ก่อนว่า ..เนื่องจาก ระบบการเทรด ของผม จะ "ซื้อ เมื่อ ขึ้น ... ยิ่งขึ้นยิ่งซื้อ.."  ซึ่งอาจจะแตกต่างจากบางคน ที่ยิ่งลงยิ่งซื้อ...  เหตุที่ ซื้อตอนขึ้น เพราะ ...
  ประการแรก .. ไม่มีใครรู้อนาคต.. ดังนั้น ไม่มีทางที่ใครจะรู้ว่า ราคาไหนต่ำแล้ว ... จะรู้ว่า ราคาไหนต่ำแล้ว ต่อเมื่อ มันเลี้ยวขึ้นให้เห็นว่าผ่านจุดต่ำที่สุดไปแล้ว
.
  ประการสอง .. ยิ่งลงยิ่งซื้อ ... ถ้าซื้อจนหมด หน้าตักแล้ว มันยังลงต่อจะทำยังไง.... แต่ยิ่งขึ้นยิ้งซื้อ ..ต่อให้ซื้อจนหมดตัว ..ยังไงก็กำไร .. เพราะถ้า Order สุดท้าย ซื้อแล้วมันลง คุณก็ขาดทุนเฉพาะ Order สุดท้าย แต่ที่ ซื้อขึ้นมาตลอดทาง ก็ยังกำไร ใช่ไหม ครับ .. (คงไม่มึนๆ ถือจะ ราคากลับมาขาดทุนล่ะครับ)
.
มาดูตัวอย่างกัน ครับ .
... จาก STEP 3 เราพบ ภาพของกลุ่ม ธนาคาร เริ่มมีสัญญาณ ที่น่าสนใจ ... คือ ราคาวิ่งกลับขึ้นมาใกล้เส้น TD-Line  ...
.
.
..  จากภาพ (2011-02-28)  พบ BBL, SCB, KBANK, KTB .. , มีราคาวิ่งกลับตัวขึ้นมา 2 วัน เข้าใกล้ TD-Line ที่ ได้ตีทิ้งไว้ก่อนหน้านี้  ...  เมื่อใช้ สัญญาณเทคนิค ของ EMA ตัดกันระหว่าง เส้น EMA5 และ EMA15  เอามาช่วยกลั่นกรองอีกชั้น แล้วพบว่า  ..
.... BBL, SCB, KBANK .. เส้น EMA5 ตัดขึ้นมา มากกว่า EMA15 แล้ว ถือเป็น สัญญาณ การกลับตัววิ่งขึ้น ได้แล้ว  ... แต่ KTB EMA5 ยังน้อยกว่า ยังไม่ตัด  EMA15 ..
.... ดังนั้น KTB ไว้ดูทีหลัง ยังไม่ต้องทำ Trading Plan .. เข้ารอบดูตัว แค่ BBL, SCB, KBANK.... เป็นหุ้นจับตาน่าซื้อ ...
... จัดการ เอา BBL, SCB, KBANK มาทำ Trading Plan ... โดยไล่เรียงไป ทีละตัว เลย
..
.ตัวแรก BBL ..
.. จากภาพ  พบว่า ที่ราคา 160 มีเกิน TD-Line  ขึ้นมาเล็กน้อย + Stochastic มีการกลับตัว เป็นการยืนยันว่า กลับตัวอย่างมี นัยยะ ที่จะพร้อมวิ่งแล้ว .. ทำการตีเส้น Fibonacci  Retrace Line ขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อสร้างให้เกิด แนวรับแนวต้าน ที่จะใช้ในการ เทรด ต่อไป ...
 .... จาก Fibonacci  Retrace Line พบว่า ราคา 160 ได้ข้าม แนว 61.8% ไปแล้ว  แน่นอนว่า Most Common  จะต้องเด้งกลับมาที่ยอดสูงเดิม  ...160 --> 170 ...
.... Trading Plan ของ BBL คือ  Buy ที่ราคาเปิดตลาด ... STOP LOSS ตกเส้น EMA15 ใน day .
... ถ้าข้าม 163 Buy more ...  ราคาเป้า Take Profit ที่ 170 .. (กรณีนี้ ตัวอย่างวางเป้าขาย เล่นรอบ ... แต่จริงๆแล้ว บางคนที่ คิดจะถือลงทุน ก็อาจจะกำหนดว่า)  .. ถือไปเรื่อยๆ ถ้าตก EMA15 ใน Day ค่อยขาย..ก็ได้
.
.
ต่อมา ก็ SCB
.
.
....จากภาพ  พบว่า ราคาจะข้าม TD-Line  ขึ้นมา ที่ 103.50  + Stochastic เริ่มจะมีการกลับตัว พร้อมวิ่งแล้ว .. ทำการตีเส้น Fibonacci  Retrace Line ขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อสร้างให้เกิด แนวรับแนวต้าน ที่จะใช้ในการ เทรด ต่อไป ...
 .... จาก Fibonacci  Retrace Line พบว่า ราคา 102  ราคาได้ข้าม แนว 38.2% แล้ว  แน่นอนว่า Most Common  จะต้องเด้งกลับ เข้าหา แนว 61.8% และยอดสูงเดิม --> ได้แนวมา 3 แนว คือ 106 , 110 , 116
.... Trading Plan ของ SCB คือ  Buy เมื่อข้าม TD-Line = 103.50 ... STOP LOSS ตกเส้น EMA15 ใน day = 100.50 - 100   ... ถ้าข้ามแนว 61.8% ที่ 106  Buy More ...  ราคาเป้า Take Profit ที่ 110 และ 116  หรืออาจจะถือไปเรื่อยๆ ถ้าตก EMA15 ใน Day ค่อยขาย..ก็ได้
.

..สุดท้าย KBANK
.
.
..จากภาพ  พบว่า ราคาจะข้าม TD-Line  ขึ้นมา ที่ 117  + Stochastic เริ่มจะมีการกลับตัว เงยขึ้นอย่างแรง .
. ทำการตีเส้น Fibonacci  Retrace Line ขึ้นมาชุดหนึ่ง พบว่า ราคา 117.5  ราคายังไม่ข้าม แนว 61.8%   Most Common  จะต้องเด้งข้ามแนว 61.8% และวิ่งเข้าหา ยอดสูงเดิม --> 130-132
.... Trading Plan ของ KBANK คือ  Buy  ที่ราคา เปิด ... STOP LOSS ตกเส้น  EMA15 ใน day = 114.50
... ถ้าข้ามแนว 61.8% ที่ 118.6  Buy More ...  ราคาเป้า Take Profit ที่ 130 และ 132  หรืออาจจะถือไปเรื่อยๆ ถ้าตก EMA15 ใน Day ค่อยขาย..
.
..  ในการบันทึก ก็ตามสะดวก จดแบบ ง่ายๆ เข้าใจเองคนเดียว หรือ อาจจะ Sketch ภาพกราฟ ไว้ประกอบ กันลืม ก็ได้ ...
..

.
..  ในภาพ แค่เป็นส่วนหนึ่ง ของ ตัวอย่างการบันทึก นะครับ ไม่ได้ มาชี้นำให้ ซื้ออะไร  ....

.
.
.
STEP 6  จัดลำดับความสำคัญ , SET PRIORITY
.
..ใน Trading Plan ที่ เราทำไว้  ย่อมต้องมี หุ้น มากมาย ที่เราเห็นสัญญาณ .. โดยเฉพาะ ในเวลา "ขาขึ้น"
ที่ทั้งตลาด มันวิ่งขึ้นหมด เลย ... เขียวทั้งกระดาน...  หุ้นมันน่าซื้อไปหมด .. แต่เงินเรามีจำกัด
จะทำอย่างไร ที่เงินลงทุน ที่ซื้อไป จะให้ผลตอบแทนที่ดี ที่สุด
... ยกตัวอย่าง ต่อเนื่อง จาก STEP 5 ....  เราทำ Trading Plan ของ BBL , SCB, KBANK ไว้ แล้ว
โดยสรุป คือ
        BBL   ซื้อทันที ราคาประมาณ 160 ......... เป้าขาย 170 ...... คาดหวังกำไร 10 บาท
        SCB   รอ Break out ที่ 103.5 ค่อยซื้อ .... เป้าขายแรก 110 ..... คาดหวังกำไร 6.5 บาท
        KBANK ซื้อทันที ราคา  118  .... เป้าขาย 130 ..... คาดหว้งกำไร 12 บาท
...
  ดังนั้น จะเห็นว่า  จากกำไรมาก ไปน้อย เรียงเป็น KBANK , BBL, SCB
  จากจังหวะการซื้อ ในการตั้ง ORDER ต้องเตรียมให้ KBANK ,BBL ก่อน แต่ SBC ต้อง รอ Break out
..
..สิ่งที่ต้อง พิจารณา เพิ่มเติม คือ
     BBL  , P/E =  12.92   , %Div = 3.00
     SCB  , P/E = 14.67    , %Div = 2.87
     KBANK ,  P/E = 14.80 , %Div = 2.02

       จะเห็นว่า หากมองในการ ถือลงทุน รับปันผล  เรียงลำดับความน่าสนใจ จะเป็น
  .....  BBL , SCB, KBANK

... หาก ว่า มี เงิน 500,000  จะแบ่งการ ซื้ออย่างไร .. ซื้อหุ้นไหน จำนวนเท่าไหร่ และจะกันเงินไว้ ซื้อเพิ่มไหม หรือ จะซื้อทีเดียวหมดเลย ....
.
 ลอง ยกตัวอย่าง เป็น ไอเดีย ให้ ... เช่น ...
..1.   KBANK ซื้อ ราคาเปิด 1000 หุ้น  (ประมาณ 118 x 1000 = 118,000)
        แล้วซื้อเพิ่ม ถ้า ข้าม 119 อีก 1000 หุ้น (119.50 x 1000 = 119,500)
.
  2.  BBL ซื้อราคาเปิด  1000 หุ้น  ( 161 x 1000 = 161,000)

  3. SCB อาจจะยังไม่ซื้อ  .... รอดูก่อน
.   ...  ดังนั้น ยอดรวม ที่ วางแผนจะซื้อ ก็ใช้เงินประมาณ  118,000 + 119,500 + 161,000 = 398,500
  .
.  หรือ อาจจะวางแผนเป็นอย่างอื่นก็ได้ .. ก็ตามแต่ความพอใจ
...
   ลักษณะ แผน ที่ยกตัวอย่างนี้ ลักษณะ เป็น การ เทรด ระยะสั้น .... ถ้า เป็นการ เทรดที่คิดจะลงทุน ถือยาวๆ อาจจะต้อง เอา เรื่อง P/E หรือ %Div มาเป็นปัจจัย หลัก ในการ จัดพอร์ท ของเรา ด้วยอีกที...

.
  อาจจะวางแนวการตัดสินใจไว้ก่อน เช่น ... BBL อาจจะ ถือลงทุน เมื่อถึง เป้าหมาย อาจจะ รอดูว่าจะไปต่อได้ไหม ..ถ้ายังไม่ EMA15 ก็ถือไปเรื่อยๆ ส่วน KBANK อาจจะ ขายทำกำไร ที่เป้าหมาย ส่วนหนึ่ง แล้วถือลงทุนส่วนหนึ่ง ... เงินที่เหลือ อาจจะทะยอยซื้อ SCB ที่วิ่งตามขึ้นมาก็ได้ ....
....
...  ทั้งนี้ ทั้งนั้น ไม่ได้มีการ ยึดเป็น แบบแผน ที่ตายตัว ... แต่ขึ้นอยู่กับ แนวคิดในการลงทุน ของ แต่ละบุคคล ..... ที่สำคัญ คือ ต้อง มีแผนในการจัดพอร์ท จัดความสำคัญของหุ้น ที่จะเอาเข้ามาพอร์ท ของเรา เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ สูงที่สุด...

.... อย่าซื้อหุ้น โดยไม่มีแผนไม่ได้เด็ดขาด....
.... อย่าซื้อหุ้นตามที่เขาว่ามา ... ว่ามันดี
.... อย่าซื้อหุ้น เพราะมีข่าวดี ... โดยไม่มีพื้นฐานรองรับ ...
.... อย่าซื้อหุ้นตามบทวิเคราะห์ เชียร์ โดยที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง....

..
..
บทความแนะนำ



Next : --> 8 Steps : ทำไว้.. จะได้ไม่เจ็บใจทีหลัง (Step 7 - 8) (จบ)
.
.
.

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ11 เมษายน 2554 เวลา 05:05

    ขอบคุณในจิตกรุณาคับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ มีประโยชน์มากเลย

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ15 มีนาคม 2555 เวลา 23:33

    ขอบพระคุณมากครับ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ7 พฤษภาคม 2555 เวลา 10:48

    ขอบคุณมากเลยครับ

    ตอบลบ