.. ซึ่งปัญหาก็เบาบางไปเมื่อเวลาผ่านไป.. แต่ดูเหมือนจะยังไม่พอ .. ตามมาด้วย วิกฤติเศรษฐกิจของ สหรัฐอเมริกา และยุโรป กระทบลามไปทั่วทั้งโลก..
.. หลายกิจการ เริ่มต้องมองหาตลาดใหม่ เพราะกำลังซื้อในสองทวีปนี้ มันลดลงอย่างฮวบฮาบ ...
.. หลายประเทศ ยังต้องจับตาดู ปัญหาคราวนี้ อย่างใกล้ชิด ....
.. ตลาดหุ้น ทั่วโลกพร้อมใจกัน หัวปักลงมาอย่าง รุนแรง ....
.
...ในปีที่ผ่านมา มีนักลงทุน สายพันธ์ใหม่เกิดขึ้นมากมายในตลาด ทั้งพวกแมงเม่า พญาปลวก... อนุบาลเทคนิคคอล... วีไอมือใหม่.. ชมรมห่านทองคำ... หรือ พวกไฮบริด ที่ใช้ทั้งพื้นฐานและเทคนิคคอลในการลงทุน ... และแม้แต่ตลาดหุ้นเอง ก็เกิดตลาดแบบใหม่ขึ้นด้วยเช่นกัน ....
.. ตลาดกระทิง (Bull Market) หรือ ตลาดหมี (Bear Market) เพียงสองอย่าง มันไม่พออีกต่อไปแล้ว เพราะตลาดแนวใหม่ ที่เกิดขึ้น มันโหดร้ายกว่านั้น ... นั่น คือ ตลาดแพะ (Goat Market)
....
. . .
ตลาดแบบแพะ นั้น มันโหดร้ายกว่า เพราะมันไม่ใช่แพะธรรมดา แต่เป็น แพะภูเขา ... เจ้ามือในตลาด จะโยกซ้าย หลอกล่อขวา ต้อนหน้าต้องหลัง เขย่าเม่า ให้ แพะมึน แพะเมา .. แล้วพา แพะเดินตามขึ้นเขา ขึ้นดอยไป .. ไปโดนเจ้ามือ เชือด ให้ เลือดสาด ตายคา ยอดดอย หรือ ปล่อยให้ติดดอย เฉาตาย ซะอย่างนั้น..
.. ฮุฮุ ...ตลาดแพะ แบบนี้ มันจะเป็นภูเขาสูงต่ำ สลับไปมา มีทั้งภูเขาสูงมากบ้าง เนินเล็กๆ บ้าง บางช่วงก็อาจเจอทะเลสาบ หรือพาลงน้ำไปชมภูเขาน้ำแข็งใต้ทะเล .. แต่ นั่นไม่สำคัญ เท่ากับตลาด แบบนี้ สุดท้าย มันจะหลอกล่อ "แพะ" ทั้งหลาย ให้ ขึ้นเขา ขึ้นดอย ... แล้ว หาทางลงไม่เจอ... .. ระวัง!!!! .... เตรียมตัวให้พร้อม ... ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ดูแผนที่ (กราฟ) และ GPS (อินดี้) นำทางให้ดี ...... ไม่อย่างนั้น .... คุณ ... คุณ .... และ คุณ .... อาจจะกลาย เป็น "แพะภูเขา" ..โดยไม่รู้ตัว ..... ^____^
..
.. มาถึงกลางปี ที่ผ่านมา ปัญหา การเมืองไทย เหมือนกับจะเริ่มคลี่คลาย .. นโยบายขายฝันต่างๆ ที่เอามาประชันกัน ในช่วงหาเสียง .. ก็พยายามผลักดันให้เป็น ความจริง ...
.. แต่ไม่ทันจะได้ดันอะไร ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ประเทศไทย ก็ถูกข้าศึก โจมตีอีกครั้ง ...ศึกครั้งนี้ ใหญ่หลวงนัก .. ใหญ่เกินกว่าที่ ใครๆ จะคาดคิด ... ทำให้ หลายคนชะล่าใจ .. ออกอาการเข็มขัดสั้นกันไปหมด (..คาดไม่ถึง..) แต่พอข้าศึก มันโจมตี เมืองหน้าด่าน แตกมาตลอดรายทาง ตั้งแต่ หัวเมืองเชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ลงมาถึงนครสวรรค์ ถึงเพิ่งจะรู้ สึกตัวกัน .... แต่มันก็สายไปเสียแล้ว ...
... ข้าศึก เข้าโอบล้อม เข้าตี ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา ของเรา.... จนเรา เสียกรุงศรีอยุธยา อีกครั้ง ใน ปีพ.ศ. 2554 .... ให้กับ "น้ำ"
. .
. .
.. เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยา คราวก่อน พระเจ้ามังระยกทัพ มาทั้งหมดสี่เส้นทางเข้าตี จนกรุงศรีอยุธยาของเรา แตก ผู้คนล้มตายบ้านแตกสาแหรกขาด อดยาก ..หิวโหย ...
.. แต่มา พอศอ นี้ น้ำ มันมาทางเดียว ตัดตรง ผ่านจาก เชียงใหม่ทางแม่ปิง มารวมกับ แม่วัง จากลำปาง ที่ตาก....เท่านั้นยังไม่พอ แม่ยมจากจากขุนยวม ผ่านมาทางแพร่ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร มาบรรจบกับแม่น้ำน่าน และ ปิง ที่ชุมแสง นครสวรรค์ ...
...
.. นครสวรรค์ รับศึกหลายด้าน ... แต่น้ำไม่หยุดรอ .. มัน เดินทางอ้อมเมือง เข้าโจมตี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา ...
ทุ่งนาข้าว ยังไม่ทันจะได้เก็บเกี่ยว ฟาร์มไก่ ฟาร์มหมู น้ำเข้าท่วม ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก...
... แน่นอน อยุธยา ของเราสมัยนี้ ถึงไม่ได้เป็น เมืองหลวง แต่ก็เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ของประเทศ มีนิคมอุตสาหกรรม อยู่มากมาย ... ซึ่งล้วนแต่เป็น ห่วงโซ่ สำคัญ ใน Supply Chain ของการผลิตสินค้ามากมายของประเทศ... ไม่สิ ต้องบอกว่าของ โลก เลยก็ว่าได้ ....
.
. .. แต่แล้ว เมืองอุตสาหกรรม ของประเทศไทย ก็ถูกทำลาย จนย่อยยับ ... โรงงาน พังนับร้อยๆ แห่ง คนทำงานไม่มีงานทำอีกหลายแสนคน ... ถ้าจะไล่เรียง ไป ก็ มี ....
กันยายน 2554 น้ำเข้า ท่วมภาคกลางหลายพื้นที่พร้อมๆ กัน เช่น พื้นที่ปากน้ำโพธิ์, พื้นที่ตลาด 100 ปี จังหวัดสุพรรณบุรี, พื้นที่ตลาดอินทร์บุรีจังหวัดสิงห์บุรี และคลองตรอนจังหวัดอุตรดิตถ์
.. ระดับน้ำในเขื่อนทุกแห่ง สูงในระดับ เกินกำลังที่จะกักเก็บได้ จำเป็นต้องปล่อย น้ำออกมาสู่ชุมชน
.
.
5 ตุลาคม 2554 นิคมฯสหรัตนคร บางปะหัน อยุธยา 46 โรงงาน ถูกถล่มด้วยน้ำ ผลคือเสียหายทุกโรงงาน. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนในรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ กระทบถึง Supply chain ของการประกอบรถยนต์สะดุดแน่นอน และยังมีโรงงานผลิตรองเท้า ECCO น่าจะส่งผลให้รองเท้า แบรนด์ดัง ขาดตลาดในบางรุ่น
.
.
8 ตุลาคม 2554 นิคมฯโรจนะ อ.อุทัย อยุธยา น้ำทะลักคันกั้นน้ำโซน 1 น้ำทะลักเข้าท่วม โรงงานฮอนด้า สังเวยไป ยังดีที่วันที่ 7 ตุลา ฮอนด้าขนรถที่ประกอบเสร็จแล้วออกนอกโรงงานได้จำนวนมากแต่ก็ยังไม่หมด รถจมน้ำไปอีกหลายร้อยคัน. ผลกระทบทำให้ โรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนรถฮอนด้า ในนิคมฯ ไฮเทค นวนคร บางปู ลาดกระบัง และอมตะนคร ต้องชะลอการผลิตในทันที
.
.
9-10 ตุลาคม 2554 นิคมฯโรจนะ ถูกน้ำท่วมมิดทุกพื้นที่ โรงงานมากมายจมน้ำหมด เช่น Nikon ผลิตกล้องถ่ายรูป , OKI ผลิตพรินท์เตอร์ , Nidec ผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสค์, Hitachi Compressor ผลิต compressor สำหรับตู้เย็นฮิตาชิ และโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์และยานยนต์ อีกมากมาย ย่อมส่ง ส่งผลกระทบกับ สินค้าในกลุ่มนี้ หลายแบรนด์ แน่นอน
.
.
11 ตุลาคม 2554 น้ำทะลัก เข้า นิคมฯโรจนะ2 ทำให้โรงงานขนาดใหญ่ จมน้ำทั้งหมด เป็นการจบชีวิต ..
นิคมฯโรจนะทั้งหมดโดยสิ้นเชิง โรงงาน F&N ผลิตนมกระป๋อง เป็นโรงงานขนาดใหญ่จมน้ำ โรงงานอิชิตัน ของคุณตัน ที่ยังก่อสร้างยังไม่เสร็จดี จมน้ำ เสียหายอย่างหนัก ... ทำให้เรา เห็นน้ำ ของ ลูกผู้ชาย ที่ชื่อ "ตัน" ....
.
.
11 ตุลาคม 2554 ขณะที่น้ำท่วมเข้าโจมตีนิคมฯโรจนะ2 อีกฟากหนึ่งมันก็เข้าถึง นิคมฯไฮเทค ด้วยเช่นกัน ใน นิคมฯไฮเทค มี 140 กว่าโรงงาน ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น Canon ผลิต Printer แทบจะทุกชิ้นส่วนผลิตอยู่ในนิคมฯนี้ Sony ผลิตโทรศัพท์ และmulti AV หลายรุ่น ยังมี HOYA ส่งออกเลนส์แว่นตาไปทั่วโลก Smartrac ผลิตบัตรsmart card และ e-passport ของประเทศในยุโรป และที่ใหญ่มาก แมรีกอท ผลิตเครื่องประดับสวารอฟสกี้ ซึ่งเกินกว่าครึ่งที่ขายทั่วโลกผลิตที่นี่ ... ย้งไม่นับโรงงาน อื่น อย่าง AH, TICON และอีกมากมาย..
และแล้ว 13 ตุลาคม 2554 นิคมฯไฮเทค ก็แตก น้ำทะลักเข้าท่วมในถนน และพื้นที่ในนิคมฯ อย่างที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้. แน่นอนว่าผลที่ตามมาย่อมทำให้ โรงงานประกอบรถยนต์ ต่างๆ ต้องกลับมา ทบทวนแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไป ..สินค้า Sony, Canon ซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยม อาจจะขาดตลาด.. ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อวงการไอทีแน่นอน... แล้วปีใหม่นี้ คริสตัลชื่อดังอาจจะมีไม่พอขาย ...
.
. และ วันนี้ เราก็ได้เห็น น้ำตา ของ ลูกผู้ชาย อีกหลายคน
.
.
.
12 ตุลาคม 2554 น้ำ ได้ทะลักอ้อม โรจนะ เข้าท่วม อ.วังน้อย จ.อยุธยา ทำให้ ในวันที่ 13 ตุลาคม ถนนพหลโยธิน เส้นทาง สู่อีสานจากอยุธยา ไปสระบุรี กลายเป็นอัมพาต ไปทันที .... ผลกระทบที่ตามมาเกิดปํญหากับ การส่งสินค้า อย่างแน่นอน .... ผักผลไม้ ก็จะแพงขึ้น ... ตลาดไท ไม่มีของขาย ...
.
. . แน่นอนว่า ความเสียหายเกิดขึ้นกับ ชุมชน และอุตสาหกรรม ใน วังน้อยทันที ...
บนถนนเส้นนี้ ส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยมีโรงงาน ... แต่มันมี DC - Distribution Center หรือ ศูนย์กระจายสินค้า ที่จะกระจายสินค้า ออกสู่อีสาน มากมาย ไม่ว่า จะเป็น TescoLotus , BIG C , MAKRO, HMPRO , 7-11 , Sony ..
ปัญหา ที่ตามมา ย่อมหมายถึง การกระจายสินค้า สู่อีสาน ของสินค้าต่างๆ ก็อาจจะเป็นไปได้....
.
และ จุดต่อไป จากนี้ ยังคงมี อีก หลายนิคมอุตสาหกรรม เรียงรายรอการโจมตีของน้ำ อีก ได้แก่
นิคมฯบางปะอิน ที่มี โรงงานผลิต Harddisk - Western Digital ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ,
นิคมฯนวนคร มีโรงงานอีกมากมายในนั้น เช่น กิฟฟารีน, เนสท์เล่, พานาโซนิค, ทอสเทม, SMT ฯลฯ
แล้ว ถัดไปยังมี นิคมฯบางกะดี ปทุมธานี ในนั้นโรงงานของขนาดใหญ่ของ SONY, TOSHIBA, SVI, ฯลฯ และ อีกมากมาย
ยังไม่นับ โรงงานขนาดใหญ่ในจังหวัดปทุมธานีที่ไม่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม แต่ก็อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะต้อง ตั้งรับการโจมตีจากน้ำ ในครั้ง นี้ เช่น เสริมสุข, คาร์เปท, คิมเบอรี่ คล๊าก, ฯลฯ ....
.
.
น้ำท่วม หนักขนาดนี้ นิคมฯ อุตสาหกรรม ล่มจมน้ำ ต่อเนื่องกันแบบนี้ มันกระทบ ภาพรวมของปัจจัยพื้นฐาน ของ เศรษฐกิจไทย ใน Sector ไหน อย่างไร ......
ภัยธรรมชาติ เป็น ปัจจัย อันสำคัญ ที่ทำให้ พื้นฐาน ของ หลายๆ กิจการ เปลี่ยนไป ในทางที่เลวลง ... และหลายๆ กิจการ กลับดีขึ้น ..... นักลงทุน มืออาชีพ จึงควรที่จะ เริ่มทำการบ้าน วิเคราะห์ เสียตั้งแต่ตอนนี้ ....
ตอนนี้ P/E , P/Bv, %Div. งบการเงินย้อนหลัง อะไร มันก็ช่วยไม่ได้แล้ว .... เพราะมันไม่ได้สะท้อนความเสียหายที่เกิดกับอุตสาหกรรม ในปัจจุบัน .....
... กิจการหลายแห่งที่โดนน้ำท่วม ไปแล้ว เป็นผู้ผลิตสินค้าที่ มีความสำคัญ ต่อภาพรวมของสินค้าในตลาดโลก ... คิดกันให้เยอะๆ ครับ ... นักลงทุน ต้องมองให้ไกล อ่านให้ขาด... ว่า อะไรกำลังจะเกิดขึ้น .. แล้วโอกาส จะมาอยู่ใน มือ เรา... จากการ Panic Sell ในกิจการที่มีโอกาสดี ....
.
.
ประเด็น มันไม่ใช่ อยู่ที่ตอนน้ำท่วม ... ความสำคัญ มันอยู่ที่ตอนน้ำลดแล้ว ... กิจการอะไร ที่จะเลวร้าย ทันที ... กิจการอะไรที่จะซึมในระยะยาว ... กิจการใดที่จะมีโอกาสทำกำไร ...และกิจการอะไรที่จะได้ประโยชน์จากโอกาส ในระยะยาว ...จากอุทกภัยในครั้งนี้ .....คุณรู้กันรึยัง ...ถ้ายัง.. จงเริ่มคิดวิเคราะห์ เดี๋ยวนี้ ...หากคิดจะเป็นนักลงทุนมืออาชีพ ... ที่ไม่ใช่แมงเม่า ที่ตื่นตูมไปกับตลาด Panic sell หรือเป็น แพะภูเขา ที่โดนหลอกไปถูกเชือดบนยอดดอย....
ประเด็น มันไม่ใช่ อยู่ที่ตอนน้ำท่วม ... ความสำคัญ มันอยู่ที่ตอนน้ำลดแล้ว ... กิจการอะไร ที่จะเลวร้าย ทันที ... กิจการอะไรที่จะซึมในระยะยาว ... กิจการใดที่จะมีโอกาสทำกำไร ...และกิจการอะไรที่จะได้ประโยชน์จากโอกาส ในระยะยาว ...จากอุทกภัยในครั้งนี้ .....คุณรู้กันรึยัง ...ถ้ายัง.. จงเริ่มคิดวิเคราะห์ เดี๋ยวนี้ ...หากคิดจะเป็นนักลงทุนมืออาชีพ ... ที่ไม่ใช่แมงเม่า ที่ตื่นตูมไปกับตลาด Panic sell หรือเป็น แพะภูเขา ที่โดนหลอกไปถูกเชือดบนยอดดอย....
.
.
.
สู้ต่อไป ... Thailand .
ปุกปุย
.
ปล. ถ้าคุณเห็นว่า .... สึนามิเศรษฐกิจ ปีนี้ มันหนักแล้ว ....ผมมีข่าวดี อยากบอกว่า ... มันแค่ซ้อมใหญ่
... ปีหน้า เจอ ของจริง.... เตรียมตัวกันรึยัง ......
.
.
บทความแนะนำ
.
.
<-- Previous : เหลียวหลังแล SET 1 ปี .. แล้วต่อไป ยังไง
.Next --> : บ่น มือใหม่ .... ให้เข้าใจ Technical .... ตอน 1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น