Wave Riders Technical Course Online

Wave Riders Technical Course Online
เรียน Technical Course online สามาร click ที่ ภาพเลย

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Resistant, Support - Part 1


Resistant , Support 

ชื่อเรื่องเป็นภาษาอังกฤษแบบนี้ บางคนอาจจะงงว่าคืออะไร แต่คนที่ใช้ Technical Analysis ในการดูกราฟหุ้น จะเข้าใจคำพื้นฐานที่ต้องรู้จักเหล่านี้ กันแทบทุกคน

Resistant คือ แนวต้านทาน หรือที่เรียกกันติดปากว่า "แนวต้าน" นั่นเอง

Support คือ แนวรองรับ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า "แนวรับ"

แนวต้าน และ แนวรับ จะเป็นการตีเส้น ในแนวนอน (Horizontal Line) ไว้ที่ ระดับราคาใดราคาหนึ่ง

แนวต้าน (Resistant) จะเป็นการตีเส้นแนวนอนไว้ด้านบน เหนือแท่งราคาขึ้นไป ตีเส้นไว้เพื่อเป็นแนวราคารอให้แท่งราคาวิ่งขึ้นไปทดสอบเส้นแนวต้าน ว่าจะผ่านขึ้นไปได้หรือไม่

หากผ่านขึ้นไปได้ ราคาของหุ้นนั้นก็จะวิ่งขึ้นต่อไป วิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป

หากผ่านไม่ได้ แท่งราคาเกิดอาการชนเส้นแนวต้านแล้วถอยลงมา พักตัว แล้วลงไปเลย หรือเลี้ยวกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านอีกครั้งก็เป็นไปได้ แนวต้านบางแนวแข็งแกร่งมาก ราคาขึ้นมาชนแนวต้านแล้ว กระเด็นลงมา แล้วขึ้นไปทดสอบใหม่ แล้วหล่นลงมา อยู่ 3-4 รอบกว่าจะผ่านข้ามขึ้นไปได้



แนวรับ (Support) เป็นเส้นแนวนอนที่ตีไว้ด้านล่างต่ำกว่า แท่งราคา เพื่อเป็นแนวรองรับ ในเวลาที่ราคาหุ้นถอยลงมาทดสอบแนวรับ


หากราคาลงมาทดสอบแนวรับ ชนเส้นแล้วเด้งกลับขึ้นไปได้ ก็แสดงว่า "รับอยู่" ราคาหุ้นก็ยังมีโอกาสวิ่งขึ้นไปได้อีก



หากราคาลงมาทดสอบแล้ว ทะลุผ่านแนวรับลงไปได้ แสดงว่า ราคายืนแนวรับไม่ได้ ราคาหุันก็จะลงต่ำลงไป มุ่งหน้าไปทดสอบแนวรับถัดไป ในบางครั้งแนวรับแข็งแกร่งมาก ราคาลงมาชนแล้วเด้ง แล้วลงมาชนใหม่แล้วเด้งอยู่ 2-3 ครั้ง จนหมดแรง ราคาถึงจะลงหลุดเส้นลงไปได้










   


     ซึ่งจริงๆ แล้ว เส้นแนวรับแนวต้าน จะเป็นระดับราคาทางจิตวิทยาของนักลงทุนในตลาดจำนวนมากพอสมควรมองว่าราคาไม่น่าจะผ่านแนวระดับราคานี้ไปได้ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ ที่แนวต้านให้ดู

     ราคาที่แนวต้าน นักลงทุนบางส่วนซึ่งมีจำนวนมากพอสมควร เรียกว่า "กลุ่มอยากขาย" มองว่าราคาไม่น่าจะผ่านแนวต้านไปได้ พอราคาขึ้นมาถึงที่ระดับราคานั้น นักลงทุน"กลุ่มอยากขาย" ก็จะขายหุ้นออกมา ทำให้เกิดอาการ ชนแนวต้านแล้วถอยลงมา 

     แต่จะมีนักลงทุนอีกกลุ่มที่ เข้าไปรับซื้อ เรียกว่า "กลุ่มอยากซื้อ" ก็จะซื้อเพราะเชื่อว่าราคายังไปได้อีก สองกลุ่มนี้ ก็จะแลกหมัดกันที่แนวต้าน เกิดอาการชนแนวต้านแล้วราคาถอยหลายครั้ง และถ้าซื้อต่อเนื่องจนชนะ นักลงทุน"กลุ่มอยากขาย" จนราคายกขึ้นข้ามแนวต้านไปได้ 

     ก็จะมีนักลงทุนอีกกลุ่ม ที่เป็น "กลุ่มวางตัวเป็นกลาง" พวกนี้จะรอดูท่าทีอยู่ เมื่อเห็นว่าราคาผ่านแนวต้านได้แล้ว ก็จะตัดสินใจเข้ามาช่วยซื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นเรามักจะพบว่า เมื่อราคาหุ้นข้ามแนวต้านได้ ปริมาณการซื้อจะเพิ่มขึ้นและราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปอย่างเร็วกว่าเดิม 

      แล้วเมื่อราคาวิ่งขึ้นต่อไปอีกไกล "กลุ่มอยากขาย" ที่ขายหมูไปแล้วบางส่วน เริ่มสำนึกผิดว่าไม่น่าขาย ก็จะกลับเข้ามาซื้อ ในราคาที่แพงกว่าเดิม ซึ่งตอนนั้นเอง ที่ "กลุ่มอยากซื้อ" และ "กลุ่มวางตัวเป็น กลาง" ก็จะแสดงน้ำใจให้ ด้วยการขายหุ้นให้ ทำกำไร ด้วยราคาแพงเป็นพิเศษ .... ฮ่าๆๆ ..
    
      กลายเป็น สองรุมหนึ่ง ราคาก็จะลงเร็ว แน่นอนว่า "กลุ่มอยากซื้อ" บางส่วนจะตกใจขายหนีผสมโรงออกมา ด้วยทักษะการคัทลอส และบางส่วน เข้าใจว่าราคาหุ้นเป็น สินค้าในห้าง ติดป้าย midnight sale ลด 30-50% กระหน่ำซื้อไม่ยั้งด้วยทักษะขา Shopping สินค้าลดราคาเป็นอาชีพ .... ฮึๆๆ ในที่สุด ติดดอยเรียบร้อย

     ในทางกลับกันถ้าการแลกหมัดที่แนวต้าน "กลุ่มอยากขาย" ชนะ "กลุ่มอยากซื้อ" ซึ่งรับซื้อมาจนหมดกระเป๋าแล้ว แต่หุ้นยังโดนขายต่อเนื่อง ราคาเริ่มไหลลง "กลุ่มอยากซื้อ" บางส่วนจะไหวตัวทัน กลับใจมาขายด้วย คราวนี้ราคาจะไหลลงอย่างแรง เป็นอาการแย่งกันขายเลย แต่ "กลุ่มอยากซื้อ" และ "กลุ่มวางตัวเป็นกลาง" บางส่วนที่รอราคาลงมาต่ำจะเริ่มเข้ามารับซื้อ ส่วนใครที่ซื้อ ไปแถวแนวต้าน แต่พอราคาลง แล้ว ไม่คัทลอส ก็ติดดอยเช่นกัน .... เฮอะๆๆ

แล้วคุณล่ะ เป็นนักลงทุนกลุ่มไหน.... !!!!


Wave Riders Pui

4 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณคับ
    วันนี้พอเข้าใจแล้ว อธิบายแบบนี้ :)

    ตอบลบ
  2. ดูตาามกราฟแล้วมีวันนึงราคาทะลุแนวต้านไป ถ้าตามซื้อตามหลัก แล้วอีกวันต่อมาก็ล่วงเลย แบบนี้ต้องคัทลอสใช่ไหมครับ

    ตอบลบ
  3. ใช่ครับ ... แต่นั่นแสดงว่า เราอาจจะลืมดู Volume ก็ได้ ว่า Volume มันไม่มากไม่มาก

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณครับ ผมก็เพิ่งจะเข้าใจชัดว่า แนวรับแนวต้านเกิดจากการแลกหมัดกันระหว่างกลุ่มครับ

    ตอบลบ