เขาว่า ขาขึ้น มี 5 คลื่น 1-2-3-4-5 ขาถอย มี 3 คลื่น A-B-C
เขาว่า คลื่น 3 จะยาว และวิ่งแรง ให้หาคลื่น 3 ให้เจอ แล้ว ซื้อ ถือ ไปเลย
... นับคลื่นมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ
.. พอเริ่มเอาไปใช้จริงๆ ชีวิตมันไม่ได้ง่าย ขนาดนั้น ... มันมี นับ ลง 1-2-3-4-5 ด้วยล่ะ
มันมี คลื่นใหญ่ ในคลื่นย่อย อีก มันมี คลื่น ซับซ้อน Complex โผล่มาอีก มี WXY มาอีก ... เอาเข้าไป เริ่มมึนแล้ว สิ
..
แล้วนับๆ ไป เฮ้ย ทำไม นับ คลื่น 1 พัก คลื่น 2 ขึ้นคลื่น 3 ...แล้ว มันลงลึกเลยล่ะ ... คลื่น 5 หายไปไหน .... คราวนี้ เริ่ม เสียสติ .... สรุปว่า นับคลื่น มันดี จริง รึ
..
ไปถาม รุ่นพี่ คนนั้น คนนี้ ที่เขาว่าเป้น เทพ เป็นเซียน ทำไมนับไม่ตรงกัน ... ได้คำตอบ ว่า อ่อ.. พี่นับตามตำรา คนนี้ .. ส่วนอีกคน ก็นับตามอีกตำรา .... บางคน นับตามตำรา กูเอง .... นั่นปะไร มีนับคลื่น แล้ว บรรลุ ทำตำรา กูเอง ด้วย ...
..
Elliott ก็มีคนเดียวนะ .. คิด Elliott Wave Theory ขึ้นมาก็มี เล่มเดียว มันทำไม แตกออกเป็นหลายตำราได้ ล่ะ ... . ภายหลัง จาก ที่ RN. Elliott ขึ้นสวรรค์ ไปแล้ว อีกหลายปี ทีเดียวถึงมี คนไปขุดคุ้ย ตำราของ เขาขึ้นมา เผยแพร่ แล้วก็มีคน นำไปศึกษา ต่อยอดกันออกไป จนกลายเป็น Elliott Wave ในแบบ ของ กู กันเยอะไปหมด
..
แต่หลักๆ จะมีคน พูดถึง เยอะ อยู่ 2 ค่าย คือ
1. Elliott Wave International ที่ Robert Prechter เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา
หนังสือ ที่ถูกอ่านมากที่สุด คือ Elliott Wave Principle : Key to Market Behavior
WebSite : www.elliottwave.com
2. Neo Wave Institute ก่อตั้ง โดย Glen Neely
หนังสือ ที่ถูกอ่านมากที่สุด คือ Mastering Elliott WaveWebSite : www.neowave.com
ยังมี ที่อื่นอีก แต่ก็ไม่ได้เป็น ที่นิยม และเจาะลึก รายละเอียด จนเป็นที่ยอมรับ เท่ากับ 2 ค่ายนี้
แต่ละ แห่ง ยึดหลักการ เดิม ของ Elliott Wave และมีส่วนที่ได้ ศึกษาเพิ่มเติม พัฒนา เป็น เทคนิคของแต่ละแห่ง ด้วย
แต่ทางด้าน EWI ยังยึดหลักการของต้นฉบับดั้งเดิม ไว้มากกว่า NeoWave ซึ่งระยะหลังๆ หลุดออกไปจาก Elliott Wave ดั้งเดิม ค่อนข้างมาก ..
.. Elliott Wave ฉบับดั้งเดิม เป็นความรู้ เกี่ยวกับ Price Structure - รูปแบบราคาต่างๆ , ความสัมพันธ์ของสัดส่วนราคา - Fibonacci Price Relation .. และ ความสัมพันธ์ของเวลา Time Relation ของราคาในแต่ละคลื่น ... Mr.Elliott ไม่ได้มีการพูดถึงการใช้ Indicator อะไรเลย นอกจาก Volume
..
..
.. ดังนั้น เพิ่อให้สามารถหาคลื่นได้อย่าง ชัดเจน นักเทคนิคอล ที่สนใจใน Elliott Wave จำนวนมาก ก็ ศึกษา พัฒนา Indicator ต่างๆ ที่จะใช้ในการ แยกแยะ Wave แต่ละส่วนๆ ออกมาให้ชัดเจน โดยเฉพาะ อาการ Indicator ที่แสดง Wave 3 ถูกสร้างขึ้นมามากที่สุด
..
ทำให้ ทั้ง เส้นค่าเฉลี่ย , MACD , RSI , ADX และ Indicator ยอดฮิต ทั้งหลาย ถูกนำมา ศึกษา เพื่อใช้ในการแยกแยะ คลื่น กันอย่าง สนุกสนาน ... เพื่อ จะเป็นเครื่องมือ ช่วยในการแกะคลื่น
. .. ในบรรดา เครื่องมือ แยกคลื่น ทั้งหมด ขอยกให้ AO ของ Bill Williams เป็นสุดยอดเครื่องมือในดวงใจ .... เพราะ สามารถ หาคลื่น 3 และ 5 ได้อย่างเด็ดขาด ชัดเจนมาก
. .. ในบรรดา เครื่องมือ แยกคลื่น ทั้งหมด ขอยกให้ AO ของ Bill Williams เป็นสุดยอดเครื่องมือในดวงใจ .... เพราะ สามารถ หาคลื่น 3 และ 5 ได้อย่างเด็ดขาด ชัดเจนมาก
AO ที่โตมากๆ และ ราคาวิ่ง แรงๆ มันคือ Wave 3 แน่นอน ดังนั้น ถ้าเห็นราคา วิ่ง พร้อม AO โตกว่าเดิม ถือสิ รออะไร ราคา Wave 3 มัน ก็ จะไป 161.8% ของ Wave 1
แล้ว Wave 4 จะถอยแรง ควรขายทำกำไร ไปก่อน ส่วน Wave 5 ก็จะเห็นการอ่อนแรง AO จะ Divergence ให้เราเห็น
..
เครื่องมือ พวกนี้ ก็เป็นเพียง ตัวช่วย ยืนยัน ว่าเรานับ คลื่นถูกต้อง เท่านั้น การนับคลื่นจริงๆ ยังต้องดูที่โครงสร้างราคาและ สัดส่วน Fibonacci ระหว่างคลื่น เป็นหลัก อยู่ดี
..
ปัจจุบัน นักวิเคราะห์ปัจจัยเทคนิค มีมาตรฐาน ออกมาให้การรับรองความรู้ ที่เรียกว่า CMT และ CFTe ซึ่งเคยเล่าให้ฟังไปแล้ว ใน บทความ "มาตรฐานความรู้ Technical Analysis มันมีไหม ?? "
สำหรับ ใบอนุญาตินักวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค ในประเทศไทย ต้องสอบ CMT Level 1 หรือ CFTe Level 1 ให้ผ่าน
แล้ว Wave 4 จะถอยแรง ควรขายทำกำไร ไปก่อน ส่วน Wave 5 ก็จะเห็นการอ่อนแรง AO จะ Divergence ให้เราเห็น
..
เครื่องมือ พวกนี้ ก็เป็นเพียง ตัวช่วย ยืนยัน ว่าเรานับ คลื่นถูกต้อง เท่านั้น การนับคลื่นจริงๆ ยังต้องดูที่โครงสร้างราคาและ สัดส่วน Fibonacci ระหว่างคลื่น เป็นหลัก อยู่ดี
..
ปัจจุบัน นักวิเคราะห์ปัจจัยเทคนิค มีมาตรฐาน ออกมาให้การรับรองความรู้ ที่เรียกว่า CMT และ CFTe ซึ่งเคยเล่าให้ฟังไปแล้ว ใน บทความ "มาตรฐานความรู้ Technical Analysis มันมีไหม ?? "
สำหรับ ใบอนุญาตินักวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค ในประเทศไทย ต้องสอบ CMT Level 1 หรือ CFTe Level 1 ให้ผ่าน
...
แต่นั่นก็ยังเป็น การรับรองความรู้เทคนิคคอล ทั่วไป ในปัจจุบัน ในระดับสากล ยังมีนักวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่แยกความรู้ออกมาเป็น การวิเคราะห์คลื่น โดยเฉพาะอีกด้วย
เรียกว่าเป็น Elliott Wave Analyst
...
และล่าสุด ได้มีการออก มาตรฐาน รับรองความรู้ Elliott Wave ของผู้ที่จะเป็น Elliott Wave Analyst กันแล้ว ออกโดย EWI - Elliott Wave International เรียกว่า CEWA - Certified Elliott Wave Analyst เพื่อให้นักวิเคราะห์คลื่น ที่ทำบทวิเคราะห์ออกมา มีการนับคลื่น ที่มีมาตรฐานเดียวกัน
... แน่นอนว่า การที่จะได้รับการรับรองคุณวุฒินี้ จะต้องสอบ ให้ผ่าน ข้อสอบมาตรฐานของ EWI
ซึ่ง การสอบ ไม่ง่าย แน่นอน
การสอบ CEWA จะแบ่งเป็น 2 Level จะต้องสอบให้ผ่านภายใน 2 ปี
Level 1 เป็นการสอบความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับ ทฤษฎีคลื่น
ระยะเวลาสอบ : 60 นาที
ประเภทคำถาม : Multiple-Choice , True/False และ Yes/No questions
เกณฑ์ผ่าน : ได้คะแนน 80% ขึ้นไป
ค่าสอบ : $300 (สอบซ่อม $150 )
Level 2 เป็นการสอบวัดความเข้าใจ และความชำนาญในการนับคลื่น
แบ่งเป็น ข้อสอบย่อย 5 ส่วน แบ่งเป็นสอบความรู้ 2 ส่วน และสอบการนับคลื่น 3 ส่วน
ระยะเวลาสอบ : สอบความรู้ 2 ส่วนๆ ละ 45 นาที และสอบนับคลื่น 3 ส่วนๆ ละ 75 นาที
รวมระยะเวลาสอบ ทั้ง 5 ส่วน 5 ชั่วโมง 15 นาที
และต้องทำข้อสอบให้เสร็จทั้งหมด ภายใน 72 ชั่วโมง นับตั้งแต่ Start Exam
ประเภทคำถาม :
ส่วนที่ 1 เป็น Multiple-Choice , True/False และ Yes/No questions 20 คำถาม
ส่วนที่ 2 เป็น Multiple Response คือ ตอบข้อที่ถูกได้มากกว่า 1 ข้อ 20 คำถาม
ส่วนที่ 3 เป็น Label Wave 2 Degree จำนวน 4 กราฟ
ส่วนที่ 4 เป็น Label Wave 3 Degree จำนวน 4 กราฟ
ส่วนที่ 5 เป็น Label Wave 3 Degree จำนวน 4 กราฟ
เกณฑ์ผ่าน : แต่ละส่วนได้คะแนน 80% ขึ้นไป และ
ใครที่ได้ 90% ขึ้นไปทั้ง 5 ส่วน จะได้เป็น CEWA-M หรือระดับ Master นั่นเอง
ค่าสอบ : $1500 (สอบซ่อมแต่ละส่วน $250)
ใครสนใจรายละเอียดการสอบ ก็ เข้าไปดู ได้ใน Website นี้
http://www.elliottwave.com/CEWA/Certified-Elliott-Wave-Analyst
จากที่สมัครทดสอบไป แล้ว พบว่า Level 1 ไม่งายนัก แต่ก็ไม่ยากเกินไป สำหรับคนที่มีความรู้ และแม่นยำใน Rules & Guideline ต่างๆ ของทฤษฎีคลื่น ก็สามารถผ่านได้สบายๆ
ข้อสอบ Online ทำทดสอบเสร็จแล้ว รู้ผบสอบทันที
ที่ไปพลาด ตอบผิด จะเป็นจากการอ่านโจทย์ แล้ว งง ว่าถามอะไร หรือรายละเอียดๆ เล็กน้อย ที่อยู่ในหนังสือ และอาจจะอ่านข้ามไป หรือ ลืมไป เสียมากกว่า
เรียกว่าเป็น Elliott Wave Analyst
...
และล่าสุด ได้มีการออก มาตรฐาน รับรองความรู้ Elliott Wave ของผู้ที่จะเป็น Elliott Wave Analyst กันแล้ว ออกโดย EWI - Elliott Wave International เรียกว่า CEWA - Certified Elliott Wave Analyst เพื่อให้นักวิเคราะห์คลื่น ที่ทำบทวิเคราะห์ออกมา มีการนับคลื่น ที่มีมาตรฐานเดียวกัน
... แน่นอนว่า การที่จะได้รับการรับรองคุณวุฒินี้ จะต้องสอบ ให้ผ่าน ข้อสอบมาตรฐานของ EWI
ซึ่ง การสอบ ไม่ง่าย แน่นอน
การสอบ CEWA จะแบ่งเป็น 2 Level จะต้องสอบให้ผ่านภายใน 2 ปี
Level 1 เป็นการสอบความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับ ทฤษฎีคลื่น
ระยะเวลาสอบ : 60 นาที
ประเภทคำถาม : Multiple-Choice , True/False และ Yes/No questions
เกณฑ์ผ่าน : ได้คะแนน 80% ขึ้นไป
ค่าสอบ : $300 (สอบซ่อม $150 )
Level 2 เป็นการสอบวัดความเข้าใจ และความชำนาญในการนับคลื่น
แบ่งเป็น ข้อสอบย่อย 5 ส่วน แบ่งเป็นสอบความรู้ 2 ส่วน และสอบการนับคลื่น 3 ส่วน
ระยะเวลาสอบ : สอบความรู้ 2 ส่วนๆ ละ 45 นาที และสอบนับคลื่น 3 ส่วนๆ ละ 75 นาที
รวมระยะเวลาสอบ ทั้ง 5 ส่วน 5 ชั่วโมง 15 นาที
และต้องทำข้อสอบให้เสร็จทั้งหมด ภายใน 72 ชั่วโมง นับตั้งแต่ Start Exam
ประเภทคำถาม :
ส่วนที่ 1 เป็น Multiple-Choice , True/False และ Yes/No questions 20 คำถาม
ส่วนที่ 2 เป็น Multiple Response คือ ตอบข้อที่ถูกได้มากกว่า 1 ข้อ 20 คำถาม
ส่วนที่ 3 เป็น Label Wave 2 Degree จำนวน 4 กราฟ
ส่วนที่ 4 เป็น Label Wave 3 Degree จำนวน 4 กราฟ
ส่วนที่ 5 เป็น Label Wave 3 Degree จำนวน 4 กราฟ
เกณฑ์ผ่าน : แต่ละส่วนได้คะแนน 80% ขึ้นไป และ
ใครที่ได้ 90% ขึ้นไปทั้ง 5 ส่วน จะได้เป็น CEWA-M หรือระดับ Master นั่นเอง
ค่าสอบ : $1500 (สอบซ่อมแต่ละส่วน $250)
ใครสนใจรายละเอียดการสอบ ก็ เข้าไปดู ได้ใน Website นี้
http://www.elliottwave.com/CEWA/Certified-Elliott-Wave-Analyst
จากที่สมัครทดสอบไป แล้ว พบว่า Level 1 ไม่งายนัก แต่ก็ไม่ยากเกินไป สำหรับคนที่มีความรู้ และแม่นยำใน Rules & Guideline ต่างๆ ของทฤษฎีคลื่น ก็สามารถผ่านได้สบายๆ
ข้อสอบ Online ทำทดสอบเสร็จแล้ว รู้ผบสอบทันที
ที่ไปพลาด ตอบผิด จะเป็นจากการอ่านโจทย์ แล้ว งง ว่าถามอะไร หรือรายละเอียดๆ เล็กน้อย ที่อยู่ในหนังสือ และอาจจะอ่านข้ามไป หรือ ลืมไป เสียมากกว่า
ส่วน Level 2 ก่อนสอบต้อง Sign Agreement ไม่เปิดเผยข้อมูล จึงไม่สามารถ โพสภาพ อะไรให้ดูได้
ซึ่ง เป็นการสอบที่ สาหัสมาก ยากจริงๆ โดยเฉพาะ ส่วนที่ 2 ที่เป็น Multiple Response ต้องแม่นมาก ให้คำถามมาก พร้อม คำตอบ 5 ข้อ แล้วให้ ตอบว่า ข้อไหน ถูกบ้าง คือตอบเกิน ก็ผิด ตอบขาด ก็ผิด ไม่แม่นในความรู้ จริงๆ ตกแน่นอน เพราะมีแค่ 20 ข้อ เอา 80% ผ่าน
..
ส่วน Label Wave ส่วนที่ 3, 4, 5 เป็น Label 2 degree กับ 3 degree เป็นการสอบ Online โดยใช้ระบบที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สอบโดยเฉพาะ แต่ละส่วน มีแค่ 4 กราฟ เป็น Line Chart โล่งๆ ที่ไม่มี Indicator อะไรมาให้เลย เวลาสอบต้อง ค่อยๆ ใส่ตัวอักษร เข้าไปในกราฟ มีกราฟทุกแบบ ทั้ง Impulse wave , Diagonal , Zigzag , Flat , Triangle , Double Combination , Triple Combination เรียกว่า ถ้าไม่แม่นจริงๆ ใส่ Wave ใหญ่ Wave ย่อย ผิด ก็ไม่ผ่าน เพราะ แต่ละส่วน มีแค่ 4 กราฟ ถ้า Label Wave ใหญ่ ผิด ไป 1 กราฟ ก็ตกเลย
...
ตอนที่ ทำบทความนี้ ... เพิ่งสอบซ่อมเสร็จ Level 2 รอบแรก ไปพลาด สอบตก ส่วนที่ 2 กับส่วนที่ 3
ต้องรออีก 30 วัน ถึงจะสอบซ่อมได้ และข้อสอบซ่อม ก็ไม่เหมือนเดิม และผลสอบ Level 2 ต้องรอ อีก 4 วัน ผลถึงจะออก
เอาไว้ ได้ผล สอบแล้วจะมาเล่าให้ฟัง อีกทีนะ ครับ
Wave Riders Pui
ผมก็พยายามทำความเข้าใจครับ สู้ๆ ครับอาจารย์
ตอบลบ