ปาฏิหาริย์ แห่งการซื้อเฉลี่ย - Miracle of Average Buying

...  ในตลาดหุ้น .. เรามักจะพบคำๆ นี้ อยู่กันเป็น ประจำ ... "ซื้อเฉลี่ย" ..
.. ไม่รู้ใครเป็นคนคิด คำๆ นี้ ไว้ นะ แต่ มักมีอาการ เป็นกัน ตอน Panic .. ลงแรง ลงเร็ว .. มีหุ้นอยู่ตกใจ ทำอะไร ก็ไม่ถูก .. ขาดทุน แต่ไม่ยอมขายขาดทุน ... แต่มีเงินอ่ะ จะทำไม ... งั้นกรู ก็ซื้อเฉลี่ยให้ทุนมันต่ำ ซิ...
... เอาล่ะ สิ ซื้อมันเข้าไป ยิ่ง ซื้อ มันก็ยิ่งลง .. ทำไงดีฟะ  .. เอาน่าเดี๋ยวมันก็ขึ้น ใครๆ ก็บอกว่าหุ้นมันดี ..กิจการเยี่ยม มีข่าวไปซื้อกิจการที่นั่นที่นี่ ... กัดฟัน ลงมา ซื้อมันเข้าไป ... ซื้อมันจนเงินหมดตัว
ตอนประชุม สามัญ ประจำปี บริษัทฯ เชิญไปเป็น VIP เป็นผู้ถือหุ้น รายใหญ่....
ก็ดูดีไหม  .. วิธีนี้ .... .. อ่านมา ถึงตอนนี้ บางคนคิดในใจ .. "กรูเลย.."  ... ก็ได้หุ้น ถูกราคาดีนะ..
ถือกินปันผล ไป 3 ปี ยังไม่กล้าขาย เพราะทุนเฉลี่ยต่ำกว่าราคาตลาด .... ครึ่งต่อครึ่ง...  เศร้า..
ได้แต่ปลอบใจ ตัวเอง ... ลงทุนระยะยาวไง .. เอาน่า ปันผล ตั้ง 4% ดีกว่า ฝากธนาคารตั้งเยอะ.....
.
.
.... ถามจริงๆ เถอะ  .. จะเป็น VI ทั้งที่  .... วางแผนเป็น VI ตั้งใจเลือกซื้อหุ้นดีๆ เติบโตในระยะยาว  .... ดีกว่า เป็น VI จำใจ แบบที่เล่ามา   .. เถอะนะ..
.
... แล้วที่เล่ามา มันเกี่ยวยังไง กับ  ซื้อเฉลี่ย ละเนี่ย
.

... มาดูตัวอย่างกัน  สมมุติ มีหุ้น บริษัท นึง คุณ ซื้อมาตอนราคา 35 บาท แล้ว ราคา วิ่งขึ้นไป  42 บาท
คุณยังไม่ได้ขาย พอราคาตกลงมา ที่ 40 บาท คุณขาย ทำกำไร .. โอ้โห ดีใจสิ ครับ ...
แล้วใครๆ ในตลาด ก็ยังเชียร์ ว่า บริษัท ดี มั่นคง ราคาหล่น แบบนี้ เป็นการพักตัวเพื่อขึ้น ต่อ
พอราคา ลงมา 38 บาท แล้ว มันเด้ง แรงด้วย โอโห Volume  เข้าเต็มเลย ...
เห็นอย่างนี้ ... แน่นอน หลายคนต้อง บอกว่า ".. รอด้วย ..เอาด้วย.. " ซื้อกันใหญ่ ก็ซัดกันไป  ได้มา 39 บาท
กองเชียร์ ลงวิเคราะห์ ว่าดีอย่างงี้ อย่างนั้น จะไป 55 บาท ...
.. ภาพตัวอย่างประมาณ นี้ ..
...

..
.. สวยนะเนี่ย ราคามัน กลับ ตัวแล้ว แน่ๆ เลย .. เป็น ผม ก็ซื้อ ...
.. วันต่อไป ราคา มันลงมา 38.50 ... อ๊ะ !! ของ ถูก ซื้อเข้าไป .. อีกสองวัน ..ลง 37 ... โอ้ว!! ถูกกว่า ซื้อๆๆ
" ในใจ คิดไปว่า เดี๋ยว ก็ขึ้นแล้ว วันก่อน มันวิ่งแรงไปหน่อย .. เขาบอกว่า จะมีย่อตัวทางเทคนิค "...
... เอ้า .. ย่อ ลงมาเลย .. ซื้อ... เป็นไง.. ดูภาพตัวอย่าง..
..

... มาถึงตอนนี้ ... มีซื้อที่ 39 , 38.5 , 37 .. เฉลี่ย  38.17 .... ยังถูก..(ไหม?) ...
อีก 5 วันถัดมาราคา วิง่ลงช้าๆ ไป ที่ 35 ...... !! เครียดแล้ว สิ .... พอร์ทแดง ติดลบ -3 ...
เอาแล้ว คราวนี้ พล่าน ละ ... " ..พี่ครับ ...xxx มันจะไปต่อไหม ครับ??.."    ... คำถามแบบนี้ ลอยมาตามลม ทุกที...  พี่ผู้หวังดี ตอบ ...".. ใจเย็นน้อง เดี๋ยวมันก็ขึ้น ... ตัวนี้ พี่ก็มี..."
... " ...อ๊ะ!! มีเพื่อน... พี่เขาก็มี ..."   (แต่ลืมถาม ว่า พี่เขามีน่ะ .. ทุนเท่าไหร่...)  .. (พี่เขา VI ตัวพ่อ ถือมาตั้งแต่ 15 บาท แล้ว)..
...ในเวลาต่อมา ... ราคาหุ้น มันก็ดีด เด้ง ขึ้นมาอย่างที่พี่ผู้หวังดี เขาว่า จริงๆ ด้วย มันดีด จาก 35 ขึ้นมา 38 .. สุดยอด ...มั่กๆๆ  .. ขึ้นแล้ว จริงๆ ด้วย กลับตัวแล้ว... 5555+
ซื้อเพิ่ม อีกดีกว่า ..(ความโลภมาแล้ว)  ... ซัดไป 37 .. 37.5 .. 38.. เลย 3 ไม้ติดๆ  ... 5555+  .........เป็นไง ล่ะ ตอนนี้ เฉลี่ย 37.44  แล้ว ...
..

.หลังจากนั้น .... ราคามันไม่ขึ้น แล้ว แต่กลายเป็น ลง ลง ลง ลง ลง ลง ลง ... ตลอด 13 วัน.... O^O !!!   ...(T^T) .. ... Freeze  ไปเลย ไม่ได้ขาย   ตามภาพ ..
..

...
.. มาถึง ตรง นี้ ถามจริงๆ เถอะ ... นักลงทุนคนนี้ " เขาไม่เคยคิดจะ STOP LOSS เลย.."
เพราะติดกับดักในใจตัวเอง ที่ว่า หุ้น ดี มีปันผล ราคาวิ่งได้ไกล ... พอราคาลงก็ซื้อเฉลี่ย เห็นกับของถูก
จนถึงตอนนี้ เงินที่ ซื้อไป  หุ้นขาดทุน ... ติดหุ้น มา 2 เดือนกว่า ตั้งแต่เริ่มซื้อ ไม้แรก ที่ 39 บาท ..
.
. ถ้า นักลงทุน คนนี้ เป็น VI จริงๆ  ....คิดถึง ปันผล ที่จะได้ จริงๆ และการเติบโตของบริษัท นี้ ในระยะยาวๆ อีก 1-2 ปี ข้างหน้า แน่นอน มูลค่าหุ้น มันไปถึง 55-60 หรือ อาจจะ 70 บาท ก็เป็น ไปได้ นั่นหมายถึงว่า ต้นทุนตอนนี้ ก็นับว่า ถูกมากแล้ว  .....
แต่ .. ความโลภ.. ความกลัว ... มันไม่เคยปราณีใคร...
... เพราะ เพื่อนร่วมทาง อย่างนักลงทุน ที่ หวังจะ ทำกำไร ระยะสั้น .. ไม่ได้ วางแผนว่า ตนเองจะเป็น VI อย่างแท้จริง ก็จะถูก ความกลัวในจิตใจ เล่นงานอย่างยับเยิน และถูก บีบคั้น ให้ คายหุ้น ออกมา..
ตามภาพ ....
.

... สุดท้าย ราคาหุ้น ถูก บีบ ให้เทขาย ออกมา จนลงไป ที่ 28 บาท  ....
นักลงทุน คนที่เราติดตาม ผลงาน เขามา ตันทุน สุดท้าย ของเขา  37.44 ... และตอนนี้ หุ้น ราคา 28 บาท.
.. ถ้าเป็น คุณ .... "คุณ จะทำอย่างไร ...."
..
..
.
.
.
.
. .. สิ่งที่ ผิดพลาด ที่เกิด ขึ้น คืออะไร..... มาสรุปกัน
1. ไม่มี STOP LOSS ... ที่จะจำกัด การขาดทุนของตนเอง
2. ซื้อเฉลี่ย ผิดทาง .... .. ยิ่งลง ยิ่งซื้อ .... นี่ล่ะ ที่ผิด...
  ..... เพราะ เราไม่มีทางรู้เลย ว่า เมื่อไหร่ ราคาหุ้น มัน จะหยุดลง .. ถ้าเรา ซื้อจนเงินหมดแล้ว ... ราคายังลงไปต่อ ... พอร์ท ลงทุน นั้น จะแดงไปอีกนาน ..เป็น ความเสียหาย ยับเยินเกินบรรยาย ... ขายก็ไม่ได้ มันขาดทุน ... จะซื้อหุ้น ตัวอื่นก็ไม่มีเงิน ....

... สิ่งที่เราต้องเข้าใจ ธรรมชาติ เลย ก็คือ " ราคาหุ้น จะไม่หยุดลง ถ้ายังมีคนอยากขาย "
ไม่ว่าคนเหล่านั้น จะขายด้วยเหตุผลอะไร ก็ ตาม ตราบใดที่ยังมีแรงขาย หุ้นก็ยังลงต่อไป...
.
.
สุดท้ายแล้ว ราคาหุ้น นี้ ก็ลงมาต่ำสุดที่ 28 บาท และเริ่มมีการกลับตัว ขึ้นมา มีการเกิด Reversal Pattern เป็น Head & shoulder กลับหัว อย่างชัดเจน และราคาก็ ค่อยๆ ไต่กลับขึ้นมาอย่างช้าๆ
...

... พี่ผู้หวัง ซึ่ง เป็น VI ตัวพ่อ ก็เริ่มเข้ามารับซื้ออีกรอบ ... อิอิ ....
แล้ว ถ้า คุณ... เป็น นักลงทุน คนนั้น ที่ มีต้นทุน  37.44 ... คุณจะทำอย่างไร ...
เงินซื้อเพิ่มก็ไม่มีแล้ว .... ผ่านมา 4 เดือน ... ตั้งแต่ ซื้อ ไม้แรก ที่ 39 บาท ... เงินลงทุนไปจมติดดอย อยู่โดยที่ไม่ได้เอามาหมุนเวียน ให้ ทำงาน งอกเงยใดๆ ก็อาจจะโชคดี ได้ปันผล สัก 3% ...
... คำถาม คือ .... " พอใจกับแบบนี้ ไหม "  .....

..
..
..
ที่ควรจะเป็น ก็ คือ นักลงทุน คนนั้น ควรจะ STOP LOSS ตั้งแต่ ภาพที่ 2 แล้ว ( ลองย้อนกลับไปดู)
จะเห็น ว่า มีการ CLOSED GAP เกิด ขึ้น .. จึงควร STOP LOSS ตั้งแต่ 38 บาท ไปแล้ว
ซึ่งจะขาดทุน 1 บาท ใน ไม้แรกเท่านั้น....
สำหรับ หุ้น นี้ ทำราคา เด้งแล้ว ลง ตลอดช่วงที่ลงมา ทุกครั้ง ที่เด้งไม่เคย ทำยอดสูงกว่า ยอดสูงเดิมได้เลย
จึง ไม่ควรเข้าไป ซื้อ ..  .. จนกระทั่ง เกิด Head & Shoulder ตามภาพสุดท้าย ..แล้วเกิด การ Break out Neckline  ที่ 31 บาท ตรงนั้น จึงจะเป็น จุดที่น่าซื้อ มาก ... ซึ่งพอเด้งขึ้นไป ถึง 34 ก็จะเห็น แมงเม่า ติดดอย ขายสวน ลงมาอย่างรุนแรง.. และขณะนี้ ก็มีการ ไต่ราคากลับ ขึ้นไป จนถึงปัจจุบัน ...
ช่วงนี้ จึงเป็น ช่วงที่ น่าจะ ค่อยๆ เข้าไปเก็บหุ้น เข้า พอร์ท อย่างจริงจัง...
และ ซื้อ ทุกครั้ง ที่ ราคา ทำ New High
...
Miracle of Average Buying  
จริงๆ แล้ว ต้องเป็น ยิ่งขึ้น ยิ่งซื้อ.. และคอย ยก STOP LOSS ตามไปทุกครั้ง ที่ราคา เพิ่มขึ้น.....
... ตามภาพ สุดท้าย ...
ถ้าเราเริ่ม ซื้อ ที่ 31 .. พอ ขึ้นไป 31.5 .. 32 ซื้อเพิ่ม .. ไป 33 ซื้อเพิ่ม  เฉลี่ย ก็ 31.875 บาท
ถ้าเราวาง STOP LOSS ไว้ที่ 32  .... ถ้าราคาถอยลงมา ก็ยัง มีกำไร อยู่ .... ถึงแม้ไม่มาก แต่ก็ไม่ขาดทุน...
.... แต่ถ้า ราคา ขึ้นไป ต่อ .. และเราก็พอใจในต้นทุนเท่านี้ แล้วก็ไม่ต้องซื้อเพิ่ม ...
ที่เหลือก็เพียง ยก STOP LOSS ตามไป ทุกครั้ง ที่ราคา ทำ New HIGH
เช่น ราคา ขึ้นไป 35 -- 38  ก็ค่อยๆ ยก Stop Loss ตามไป ห่างๆ เป็น 33 -- 35 ตามลำดับ... นั้นก็คือกำไร แน่นอน ....
... สุดท้าย แถมภาพการ ซื้อ เฉลี่ย ครั้ง ล่าสุด ไว้ให้ดู ....
. อีก 1 ตัวอย่าง .....
..
ปุกปุย
..
.

.
..
.

.บทความแนะนำ

1. STOP.. STOP.. STOP.. LOST

2. ความผิดของใคร...ล่ะ

3. เที่ยวเอง (ในตลาดหุ้น) สนุกกว่าเป็นไหนๆ :) (สำเนา)

 <-- Previous :  กฎ24ข้อ โดย วิลเลียม ดี กันน์

Next : -->   ทบทวนราคา น้ำมัน ... มันจะแพงไปไหน... Crude Oil Price 2011