Wave Riders Technical Course Online

Wave Riders Technical Course Online
เรียน Technical Course online สามาร click ที่ ภาพเลย

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

The Fractal : ฝ่ามือเทรด


           จุดกลับตัวของราคา จึงมีความสำคัญในการนำมาช่วยในการพิจารณาแนวโน้ม และกำลังของแนวโน้มได้เช่นกัน และจุดกลับตัวยังใช้ในการพิจารณาตีเส้นแนวรับ (Support Line) เส้นแนวต้าน (Resistant Line) และเส้นแนวโน้ม (Trend Line) อีกด้วย ซึ่งจะอธิบายถึงหลังจากนี้ ดังนั้นการหาจุดกลับตัวของราคาจึงเป็นสิ่งจำเป็นของการใช้กราฟเทคนิคอล

            แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าจุดกลับตัวอยู่ตรงไหน เป็นยังไง

            ย้อนไปครั้งที่เรียน เทคนิคอลเป็นครั้งแรก ผมมีปัญหาเรื่องการหาจุดกลับตัวในกราฟก็เกิดคำถามเหมือนกันว่า จะรู้ได้ยังไงจุดกลับตัวมันอยู่ตรงไหน ได้คำตอบมาจากอาจารย์ว่า “มันอยู่ในฝ่ามือ” .... อ๊ะ!!! ยังไงกัน จุดกลับตัวในกราฟ มันจะมาอยู่ในฝ่ามือได้ยังไง ?? !!...

            ลองหงายฝ่ามือซ้ายขึ้นมาสิ แล้วมองไปที่นิ้วทั้งห้า จะเห็นว่านิ้วกลางปลายนิ้วสูงที่สุด นิ้วชี้นิ้วโป้งต่ำลงมาทางซ้าย นิ้วนางนิ้วก้อยต่ำลงมาทางขวา มือของคนเราปกติก็เป็นแบบนี้กันทุกคน

           คราวนี้กลับไปมองกราฟ ลองมองหาแท่งราคาที่เรียงกัน 5 แท่ง แบบนิ้วมือของเรา แท่งราคาตรงกลางที่สูงที่สุดเปรียบเทียบกับนิ้วกลาง แท่งราคาทั้งสองด้านที่ลดต่ำลงไป เปรียบได้กับ นิ้วโป้งนิ้วชี้ และนิ้วนางนิ้วก้อย ดังนั้น High Price ของแท่งราคานิ้วกลาง ก็คือ จุดกลับตัว (Pivot Point) นั่นเอง




            อัยย่ะ?!! ….. เล่นกันง่ายๆ เยี่ยงนี้ เลยรึ ???

            เมื่อราคาเข้าใจถึงความสำคัญของจุดกลับตัวบนกราฟราคาแล้ว การจะหาจุดกลับตัว ที่มีรูปแบบการเรียงตัวของแท่งราคา โดยใช้การเปรียบเทียบกับนิ้วมือบนฝ่ามือนั้น เทคนิคในหาจุดกลับตัวแบบนี้ ศัพท์ทางเทคนิคอล เรียกว่า ‘Fractal’ เพื่อความชัดเจน เรามักจะใส่เครื่องหมาย ‘ ^ ’ เอาไว้ที่ แท่งนิ้วกลาง หรือปลายของแท่งกลาง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า แท่งราคานี้เป็นจุดกลับตัว

            ดร.บิล วิลเลี่ยมส (Bill Williams, Ph.D.) เป็นคนแรกที่นำเสนอวิธีการหาจุดกลับตัว ด้วยวิธีการ ‘Fractal’ เราสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fractal ได้จากหนังสือ Trading Chaos ; Applying Expert Techniques To Maximize Your Profits by Bill Williams, Ph.D.)

       

               กราฟราคามันไม่ได้ กลับตัวกันเป็น 5 แท่งเรียงกัน อย่างนั้นทุกครั้ง เมื่อดูแท่งราคากันไป เราก็มักจะมีคำถามตามมาอีกว่า แล้วแท่งราคาสีแดง สีเขียว หรือแท่งที่มีไส้เทียนยาว หรือ แท่งราคาเป็น Doji หรือ Hammer หรือ Shooting Star มันมีผลแตกต่างกันไหม (รูปแบบราคาต่าง อธิบายอยู่ใน “โต้คลื่นหุ้น...รู้ทันเทคนิค”)

              จะบอกว่าที่จริงแทบไม่มีผลแตกต่างกันเลย จุดสังเกต คือ ในกรณีราคากำลังวิ่งขึ้น แล้วมีแท่งราคา 5 แท่งเรียงกัน ที่มี High Price ของแท่งตรงกลางสูงที่สุด แล้ว Low Price ของแท่งที่ 1, 2 ต่ำลงกว่าแท่งที่ 3 และ High Price ของแท่งที่ 4, 5 ลดต่ำลงกว่าแท่งที่ 3 เป็นใช้ได้แล้ว ส่วนแท่งที่3 อาจจะเป็นกลุ่มของแท่งราคาที่มี High Price Low Price เท่าๆ กันก็ได้





              ถ้ากรณีราคากำลังวิ่งลงแล้วกลับตัววิ่งขึ้น เราก็กลับทิศฝ่ามือชี้ลง เอานิ้วกลางชี้ลงแทน ก็จะเป็นแท่งราคา 5 แท่งเรียงกัน ที่มี Low Price ของแท่งตรงกลางต่ำที่สุด แล้ว High Price ของแท่งที่ 1, 2 สูงกว่าแท่งที่ 3 และ Low Price ของแท่งที่ 4, 5 สูงขึ้นกว่าแท่งที่ 3

              แต่ในกราฟจริงมันก็ไม่ได้มองหาจุดกลับตัวง่ายขนาดนั้น เพราะบางทีแท่งราคาก็ขยับไปข้างๆ หรือขยับขึ้นลงๆ ไปมาจนหาจุดกลับตัวได้ลำบาก จึงต้องมีวิธีการในการแยกแยะแท่งราคา ว่าแท่งไหนบ้างที่จะนับเป็น “นิ้ว” แท่งไหนบ้างที่ต้องข้ามไป เพราะว่าถ้านิ้วมือไม่ครบ 5 นิ้วก็ถือว่า “ฝ่ามือ” ยังไม่เกิด Fractal ก็ยังไม่เกิด ก็ยังไม่สามารถใส่ Fractal Signal เข้าไปในกราฟได้

               แท่งราคาบางแท่งนับเป็นนิ้วไม่ได้ต้องข้ามไป ซึ่งมีวิธีการพิจารณาแท่งราคาด้วยว่าจะ นับเป็นนิ้วหรือไม่นับเป็นนิ้ว กรณีแท่งราคาเกิด Harami แท่งราคาด้านขวาไม่ทำราคา High Price สูงกว่า และ Low Price ต่ำกว่า แท่งราคาด้านซ้าย

                จากภาพด้านล่าง  พิจารณาจากซ้ายไปขวา แท่งราคาซ้ายสุดเป็น “นิ้วโป้ง” แท่งถัดมาราคา High Price, Low Price สูงขึ้นกว่าจึงเป็น “นิ้วชี้” แต่แท่งราคาถัดมาเกิด ฮารามิ High Price, Low Price ไม่สูงกว่าและไม่ต่ำกว่าแท่งนิ้วชี้ จึงไม่นับเป็นนิ้ว และแท่งราคาถัดมา High Price, Low Price สูงขึ้นกว่าแท่งนิ้วชี้ จึงเป็น “นิ้วกลาง” (แม้แท่งราคาจะเป็น hangman ก็ตาม) แท่งสีเขียวถัดจากนิ้วกลางมาก็เป็น ฮารามิ High Price, Low Price ไม่สูงกว่าและไม่ต่ำกว่าแท่งนิ้วกลาง จึงไม่นับเป็นนิ้วอีกเช่นกัน และอีกสองแท่งถัดมาถอยลงมา High Price, Low Price ลดลงกว่าแท่งราคาก่อนหน้าทั้งสองแท่ง จึงเป็น “นิ้วนาง” และ “นิ้วก้อย” ตามลำดับ


                 อีกกรณี ก็คือ บริเวณแท่งที่ 3 มีแท่งราคาที่มี High Price, Low Price เท่ากัน หรือต่างกันเพียง 1 ช่อง bid-offer ให้รวบเป็นนิ้วกลางเดียวกันไปเลย ที่แสดงไว้ใน ภาพด้านล่าง มีแท่งราคาที่มี High Price, Low Price เท่าๆ กัน 2-3 แท่ง จึงรวบทั้งกลุ่มราคาเป็น “นิ้วกลาง”



               ข้อสังเกต ในการพิจารณา ให้แยกเป็น 2 ด้าน ไล่มองจากซ้ายไปขวา ด้านฝั่งนิ้วโป้ง นิ้วชี้ ให้ดู Low Price ที่ต่ำกว่า Low Price ของกลุ่มของนิ้วกลาง และ High ของนิ้วชี้สูงกว่านิ้วโป้ง ส่วนด้านฝั่งนิ้วนาง นิ้วก้อยให้ดู High Price ที่ลดลงต่ำกว่า High Price ของกลุ่มนิ้วกลาง และ Low ของนิ้วก้อย ต่ำกว่านิ้วนาง

                 ฝ่ามือที่ชี้ขึ้น Fractal Up เป็นจุดเปลี่ยนของทิศทางราคาจากขึ้นเป็นลง ส่วนฝ่ามือชี้ลง Fractal Down เป็นจุดเปลี่ยนของทิศทางราคาจากลงเป็นขึ้น ดังนั้นในการเคลื่อนไหวของราคา ก็จะวิ่งจาก Fractal Down ขึ้นไปจนเกิด Fractal Up แล้วก็เปลี่ยนทิศทางเป็นขาลงมาจนเกิด Fractal Down อีกครั้งหนึ่ง เป็นอันครบ 1 รอบ (1 cycle)

                หากระยะห่างของราคาระหว่าง Fractal Up กับ Fractal Down กว้างก็แปลว่า ตลาดกำลังเป็น Trend Up หรือ Trend Down ถ้าระยะห่างของราคาแคบลงก็ แปลว่า ตลาดกำลังพักตัว และถ้าระยะห่างแคบเข้าเรื่อยๆ ก็หมายถึงตลาดกำลังหมดแรง และเข้าสู่ Sideway


              ฝ่ามือเทรด ยังมีกระบวนท่า ต่อเนื่องกัน ถึง 6 กระบวนท่า .... ในโอกาสหน้าจะนำมาแสดงให้รับชมกัน ....


             ขอให้โชคดี ในการลงทุนครับ ...

Wave Rider Pui .......


บทความแนะนำ

1.  แค่ดู Volume ได้ ก็ มันส์ แล้ว





2 ความคิดเห็น:

  1. "ฝ่ามือเทรด ยังมีกระบวนท่า ต่อเนื่องกัน ถึง 6 กระบวนท่า .... ในโอกาสหน้าจะนำมาแสดงให้รับชมกัน ...."

    ไม่ทราบว่า บทความต่อจากนี้ มีไหมครับ พอดีนั้งเช็คในลิวแล้ว ไม่มีเลย ตามแนวของ Fractal พอดีกำลังศึกษาส่วนนี้ยุคับ

    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไปเขียนละเอียดกว่านี้ อยู่ในหนังสือ โต้คลื่นหุ้น เทคนิคทำกำไรทะลุฟ้า ครับ

      ลบ