เป็นวันที่ Wave Rider ได้ On Air ทาง Money Channel ในรายการ "มือใหม่" เวลา 11.00- 11.30 น. ซึ่งจะออกอากาศ 2 วัน คือ วันที่ 20-21 ธันวาคม 2554 เวลาเดียวกัน
สนใจติดตาม ชมย้อนหลังได้ จาก รายการ มือใหม่ โดย เข้าไปที่ URL นี้
http://www.dcs-digital.com/moneychannel/program.php?listid=8
แล้วกด คลิก ไปที่ วันที่ 20, 21 ธันวาคม 2554 ได้เลย
ต่อเนื่องจากวันที่ 20 ธันวาคม ได้พูดคุยการใช้เทคนิคดู ESSO โดยใช้ EMA ในการบอกสัญญาณซื้อ-ขาย จบไปแล้วรอบหนึ่ง หลังจากนั้น ESSO พักตัวยาวนาน ถึง 1 ปี แล้วก็ แสดงอาการ Break Out ราคาวิ่งทะลุ Trend Line ด้านบนขึ้นไป กลายเป็น Continuous Pattern ที่เรียกว่า Triangle Flag
.
จากภาพด้านบน
Box 10-11 แสดงให้เห็น วิธีการวัดระยะของ ‘เสาธง – Flag Pole’ ซึ่งคือระยะความสูงของจุดต่ำสุด จนถึงจุดสูงสุดของการวิ่งขึ้นมาก่อนจะ แกว่งออกข้างกลายเป็นตัวธง การวัดระยะ ให้ ลากเส้นแนวนอน – Horizontal (สีชมพู) และเส้นคู่ขนาน –Parallel Line (สีฟ้า) ที่จุดทั้งสองจุด
Box 12-13 ตัวของธง ในภาพ เป็นเส้น Trend Line สีส้ม ที่ลากผ่านจุดกลับตัว ทั้งบนล่างของ แท่งราคาการแกว่งออกข้างตลอดระยะทาง และปลายของธง ก็จะเป็นจุดสุดท้ายที่ แตะเส้น Trend Line ก่อนที่แท่งราคาจะ Break Out กรณีนี้ เป็นการวิ่งทะลุขึ้นด้านบน ดังนั้น ปลายของธงก็จะเป็นจุดสุดท้ายที่แตะเส้น Trend Line ด้านล่าง (ที่ Box 13 ชี้จุดบนเส้นสีส้ม)
Price Pattern ที่เป็น Continuous Pattern เป็นการแสดงให้เห็นถึงราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมาระยะหนึ่ง แล้วก็พักตัว จากนั้นก็จะวิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งการที่จะตัดสินว่า เป็น Continuous Pattern หรือไม่นั้น จากการเฝ้าสังเกต เห็นด้วยตนเอง จะพบว่า ระยะเวลาของช่วงที่ราคาพักตัว จะกินเวลา มากกว่า หรือเท่ากับ (ไม่มีน้อยกว่า) ระยะเวลาของช่วงที่วิ่งขึ้นมากก่อนหน้า..
ในกรณี Flag Pattern ก็หมายว่า ระยะเวลาของช่วงที่เป็น ตัวธง จะกินเวลา มากกว่าหรือเท่ากับ ระยะเวลาของช่วงที่เป็น เสาธง นั่นเอง....
จากภาพด้านล่าง...
Box 14 เมื่อแท่งราคา Break Out Trend Line ด้านบนของ ตัวธง ขึ้นไปแล้ว ราคาอาจจะวิ่งขึ้นต่อไป โดยไม่มีการพักตัวเลยก็ได้ หรือจากแท่งราคาที่ Break Out นับไป 3-5 แท่งแล้วถอยย่อตัวลงมาทดสอบ เส้น Trend Line ด้านบนของ ตัวธง แล้วเด้งกลับตัววิ่งขึ้นไปต่อก็ได้
ในกรณี ESSO นี้ แท่งราคาหลังจาก Break Out แล้ว (ในวงกลมสีชมพู) ราคาถอยออกข้างจนชนเส้น Trend Line ด้านบนของตัวธง แล้วก็พลิกกลับวิ่งขึ้นไปต่ออย่างรวดเร็ว ลักษณะแบบนี้ เป็นการยืนยันการขึ้นไปต่อ อย่างแน่นอน .... เจอเมื่อไหร่ .จ๊าก!! ดีใจ... “อัดให้เต็มพอร์ท”
เจอเมื่อไหร่ จัดหนัก .... รับรองความรวย ไม่ปราณีใคร ..... ฮ่าๆๆๆๆ
.
Box 15 เมื่อทุกอย่างยืนยันแล้วว่า เป็น Flag Pattern แน่นอน และ Break Out แล้ว ... ขึ้นแล้ว ... อัดเต็มพอร์ทไปแล้ว ... ฮุฮุ .... มาหาที่ขายกัน ....
Flag Pattern เป็น Price Pattern ที่น่าชื่นชอบมากที่สุด เพราะมันง่ายกับการหาที่ขาย คือ เมือเกิดการทะลุชายธงขึ้นไปแล้ว การวิ่งทะลุชายธง จะวิ่งเท่ากับระยะของเสาธงวัดจาก จุดปลายธง....จริงดิ๊ (เสียงสูง+ตาลุกวาว) ... มันง่ายอย่างนั้นเลย ... ช่ายแล้ว (ทำหน้าเจ้าเล่ห์) มันง่ายอย่างนั้นล่ะ
วิธีการคือ ตีเส้นแนวนอน – Horizontal และ เส้นคู่ขนาน – Parallel Line ที่ระยะของ เสาธง (ตามภาพเป็นเส้นสีชมพู และสีฟ้า) จากนั้น ให้ทำการยกให้เส้นทั้งคู่ ย้ายไปพร้อมๆ กัน ให้ เส้นแนวนอนด้านล่าง ไปอยู่ที่ จุดปลายของธง (ตามภาพที่ Box13 ชี้จุด) แล้ว เส้นคู่ขนานสีฟ้า จะกลายเป็น TARGET LINE หรือ เป้าในการขายทำกำไร นั่นเอง
ดูในภาพถัดไป ก็จะเห็นว่า ราคาวิ่งไปหา TARGET PRICE แล้ว ไหลลงทันที ... ไม่เชื่อ ต้องลองไปทำกันดู ....(จะให้แม่น ควรตั้งค่ากราฟ เป็น Log Scale)
.
Box 16 ที่ TARGET PRICE ... จะเป็นจุดขายทำกำไรจุดแรก ระหว่างทางที่วิ่งขึ้นไปนั้นจะไม่มีการขายเลย โดยให้ขายทำกำไรส่วนหนึ่ง จากนั้นถ้าราคาพักตัวแล้ว ลงมา ตกเส้น EMA15 ก็ ขายทำกำไรให้หมด แต่ถ้าพักตัวแล้วราคาไม่ตก EMA15 แล้ว ยังวิ่งข้าม TARGET PRICE ไปต่อได้อีก ก็ถือไปขายข้างบน ตก EMA15 อีกทีเมื่อไหร่ ก็ขายเมื่อนั้น …
ง่ายๆ แบบนี้ล่ะ .....
นี่เป็นเพียง การยกตัวอย่างแบบหนึ่ง ในการวางระบบสัญญาณ การซื้อ-ขาย โดยใช้เทคนิคอล หลายอย่างเอามาใช้ร่วมกัน ... ซื่งสามารถนำเอาความรู้ อย่างอื่น มาปรับใช้ได้อีกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชอบ และความถนัดของแต่ละคน ....
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ วินัยในตนเอง และสติ ที่จะ Take Action ให้ถูกต้อง ให้ถูกเวลา เมื่อเวลานั้นมาถึง ... มือใหม่ส่วนใหญ่ เป็นกำไร มันเติบโต แล้ว อดทนรวย ไม่ได้
แต่มือกลางเก่า กลางใหม่ ที่เคยได้ กำไรมากๆ มากแล้ว จะฮึกเหิม ... อยากได้กำไรเยอะๆ จนลืมดูสัญญาณ ว่า มันไม่ไปต่อแล้ว ต้องขายแล้ว ... ตามองเห็นสัญญาณขาย ... แต่ในสมองมีแต่ภาพว่า เดี๋ยวมันจะเลี้ยวกลับขึ้นไป ... สุดท้ายจากกำไร กลายเป็น ขาดทุน ...
จงระวัง จิตใจ ตนเองให้ดี .
.
บทความแนะนำ
1. เทรดหุ้น ทำไมติดหุ้น
2. ตลาดหุ้นลง .. ตกใจ กัน ทำไม
3. 2011 January Effect -- ต้มยำกบ
.
.
<-- Previous : บ่น มือใหม่ .... ให้เข้าใจ Technical .... ตอน 1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น